สรพ.ชู Growth Mindset for Better Healthcare System แนวคิดหลักของงานประชุมวิชาการประจำปี HA National Forum ครั้งที่ 24 - MSK News

Breaking

Home Top Ad

วันเสาร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2566

สรพ.ชู Growth Mindset for Better Healthcare System แนวคิดหลักของงานประชุมวิชาการประจำปี HA National Forum ครั้งที่ 24


สรพ.เปิดตัวแนวคิดงานประชุมวิชาการ HA National Forum ครั้งที่ 24 ภายใต้ธีม Growth Mindset for Better Healthcare System หวังกระตุ้นสร้าง growth mindset ให้เกิดในระบบบริการสุขภาพ

พญ.ปิยวรรณ ลิ้มปัญญาเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน) หรือ สรพ. กล่าวถึงการจัดงานประชุมวิชาการ HA National Forum ครั้งที่ 24 ในระหว่างการ Live สดครบรอบวันสถาปนา สรพ. เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 2566 ว่า การประชุม HA National Forum ครั้งที่ 24 ในปี 2567 ที่จะถึงนี้ จะจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Growth Mindset for Better Healthcare System” หรือ “ระบบบริการสุขภาพที่ก้าวหน้าด้วยกรอบความคิดที่กว้างไกล” ซึ่งจะเป็นการต่อยอดจากแนวคิด Synergy for Safety and Well Being ในการประชุมครั้งที่ผ่านมา

พญ.ปิยวรรณ ขยายความว่า ในการประชุม HA National Forum ครั้งที่ผ่านมา มีธีมหลักในการผนึกกำลังในการทำงาน อย่างไรก็ดี ต่อให้มีการรวมพลังกันแล้ว มีระบบการทำงานที่ดีแล้ว แต่สิ่งสำคัญคือ mindset ว่าจะมองและขับเคลื่อนเรื่องนั้นๆ อย่างไร ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของธีมงาน HA National Forum ครั้งที่ 24 ที่จะพูดถึงเรื่อง Growth mindset เพื่อให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับระบบสุขภาพได้หันมาพิจารณาเรื่องภายในจิตใจ เรื่องการมี growth mindset ในการทำงาน โดยเชื่อว่าถ้าบุคลากรในระบบสุขภาพมี growth mindset จะทำให้ระบบริการสุขภาพที่ดีอยู่แล้วดียิ่งกว่าเดิม

พญ.ปิยวรรณ กล่าวต่อไปว่า หากพูดเรื่อง mindset ก็คือกรอบแนวคิดที่อยู่ภายในที่ทำให้คนเราตัดสินใจทำหรือไม่ทำอะไรก็ได้ โดย Mindset จะมี 2 ด้าน คือ growth mindset และ fixed mindset การปรับให้ผู้คนมี growth mindset จะทำให้การทำสิ่งใดๆ ก็ตามมีโอกาสประสบความสำเร็จ เพราะเวลาเจออุปสรรค คนที่มี growth mindset จะมองว่าปัญหาเป็นโอกาส เห็นทุกเรื่องเป็นความท้าทาย เปิดกว้างในการรับเรื่องใหม่ๆ และสนุกกับเรื่องที่ถาโถมเข้ามา

พญ.ปิยวรรณ กล่าวอีกว่า หัวข้อการพูดคุยเกี่ยวกับ growth mindset ในการประชุม HA National Forum ครั้งที่ 24 จะมีหลากหลายแง่มุม ยกตัวอย่างเช่น การนำ growth mindset มา match กับการคิดอย่างเป็นระบบด้วย Iceberg Model ซึ่งใน Iceberg Model จะอธิบายว่ายอดของภูเขาน้ำแข็งที่มองเห็นนั้นเป็นเพียงเหตุการณ์ (events) เป็นสิ่งที่สังเกตเห็นได้ ลึกลงไปกว่านั้นยังมี patterns อยู่ และแต่ละ patterns ก็มีโครงสร้าง (structure) ที่ทำให้เกิด patterns แบบนั้น และมากกว่านั้นคือ mental Models ซึ่งเป็นฐานคิดที่อยู่ลึกที่สุดของภูเขาน้ำแข็ง ซึ่ง mental Models ก็เป็นเรื่องภายในและสอดคล้องกับ mindset

“สมมุติถ้าเอา Iceberg Model มาประยุกต์กับปัญหาสุขภาพ เช่น จำนวนผู้ป่วยล้น OPD เป็นเพียง events แต่ถ้าหา patterns จะพบว่าผู้ป่วยที่ล้น OPD นั้น ส่วนใหญ่เป็นโรคเรื้อรัง เป็นผู้ป่วยสูงวัย และภายใต้ patterns ก็จะพบว่า structure ของสังคมไทยปัจจุบันอยู่ในภาวะสังคมสูงอายุ และ structure ของระบบบริการที่ออกแบบไว้ว่าผู้ป่วยจะต้องมาตรวจที่โรงพยาบาล จึงไม่แปลกที่จะเห็นผู้ป่วยล้นโรงพยาบาล และเมื่อมองถึง mental Models ที่อยู่ใต้สุดก็จะสอดคล้องกับกรอบแนวคิดที่ว่าการดูแลรักษาโรคต้องมาโรงพยาบาลเท่านั้น ดังนั้น จุดคานงัดที่สำคัญคือถ้าปรับ mindset นิดเดียวว่า เราสามารถไม่เป็นโรคด้วยการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง หรือเป็นโรคแล้วไม่จำเป็นต้องมาโรงพยาบาลก็ได้ สามารถรักษาที่บ้าน หรือระบบ tele-health เพียงเปลี่ยนมุมคิดตรงนี้ จำนวนผู้ป่วยใน OPD ก็น่าจะลดลง นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งที่จะชวนเรียนรู้ใน HA National Forum ครั้งที่ 24 โดยอาจจะมีการจัด section เพื่อนำประเด็น events ต่างๆ มาพูดคุยแล้วค่อยไล่หา patterns หา structure และดูว่าจุดคานงัดที่สำคัญคืออะไร เป็นต้น”พญ.ปิยวรรณ กล่าว

นอกจากนี้ ในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงแม้แต่เรื่องใกล้ตัวในเชิงสุขภาพส่วนบุคคล growth mindset ก็จะนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่นำมาสู่การมีสุขภาพดี ซึ่งถ้าเป็น traditional mindset จะมุ่งเน้นการเพื่อระบบบริการรักษา (increasing medical care volume) แต่ถ้าเป็น new mindset จะมุ่งเน้นที่สุขภาพที่ดีของประชาชน (improving population health) ซึ่งเรื่อง improving population health ก็จะมีการนำมาพูดคุยกันในงาน HA National Forum ด้วย ทั้งนี้ สถานพยาบาลที่มีเรื่องราวดีๆ ในการส่งเสริมสุขภาพในพื้นที่ก็สามารถเสนอตัวมาเป็นผู้นำเสนอและแลกเปลี่ยนในงานนี้ได้เช่นกัน

พญ.ปิยวรรณ ยังยกตัวอย่างการนำ growth mindset มาปรับเปลี่ยนระบบให้เป็น operational intelligence ซึ่งจะประกอบด้วยหลักคิด 3 ตัว คือ การคิดนอกกรอบ การมีระบบกำกับติดตามอย่างสม่ำเสมอ และการบูรณาการทั้งด้านคลินิก กระบวนการที่ดี และเทคโนโลยีที่ใช่ ดังนั้นถ้าพร้อมที่จะคิดนอกกรอบ มีการติดตามการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น และมีการบูรณาการทั้งด้านคลินิก กระบวนการ และเทคโนโลยี เหล่านี้คือ growth mindset model

“ถ้ายกมากรณีผู้ป่วยแน่น OPD แค่เปลี่ยนมุมคิดว่าการดูแลไม่จำเป็นต้องมาโรงพยาบาลก็ได้แต่คนไข้ต้องได้รับการรักษา การได้รับการรักษาคือ clinical ส่วนกระบวนการคือไม่ต้องมาโรงพยาบาลแต่นำเทคโนโลยีมาช่วย นี่คือ operational intelligence ซึ่งเราก็จะมีการจัด section เพื่อพูดคุยกันในงาน forum ด้วยเช่นกัน”พญ.ปิยวรรณ กล่าว

ทั้งนี้ งาน HA National Forum ครั้งที่ 24 จะจัดเฉพาะแบบ on-site ระหว่างวันที่ 12-15 มี.ค. 2567 โดยหลังจากที่มีการแนะนำแนวคิดการจัดประชุมในวันนี้แล้ว หลังจากนี้ สรพ. จะมีแคมเปญสร้างการรับรู้แก่สถานพยาบาลตลอดทั้งปี และเปิดรับผลงาน CQI ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. - 30 พ.ย. 2566 และเริ่มลงทะเบียน Forum ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. 2566 – 31 ม.ค. 2567 ทาง www.forumhai.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น