ผู้ว่าฯ ชัชชาติ เตือนใจทุกเสี้ยววินาทีเปลี่ยนชีวิต ขอให้ขับรถด้วยความระมัดระวัง เตรียมเชื่อมโยงเครือข่ายกล้อง CCTV ทั่วกรุง ร่วมสร้างเมืองปลอดภัย - MSK News

Breaking

Home Top Ad

วันอังคารที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2565

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ เตือนใจทุกเสี้ยววินาทีเปลี่ยนชีวิต ขอให้ขับรถด้วยความระมัดระวัง เตรียมเชื่อมโยงเครือข่ายกล้อง CCTV ทั่วกรุง ร่วมสร้างเมืองปลอดภัย

“ช่วงเสี้ยววินาทีมันเปลี่ยนชีวิตได้เลยนะ ทั้งคนขับและคนถูกชน ต้องระวังเรื่องการใช้โทรศัพท์มือถือระหว่างขับรถ เสี้ยวนาทีมันเปลี่ยนชีวิตได้ ไม่ใช่เฉพาะตัวเรา ครอบครัวเราด้วย เป็นสิ่งเตือนใจผู้ใช้รถใช้ถนน ต้องขอขอบคุณตำรวจนครบาล ที่กรุณาเอาจริงเอาจัง และสามารถตามหาผู้ก่อเหตุได้ภายใน 1 วัน และขอให้ติดตามได้ทุกกรณี สุดท้ายคนจะต้องระวังตัวมากขึ้นและรับผิดมากขึ้น ซึ่งจะมีการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป กทม.จะดูแลเพื่อนร่วมงานพี่น้องเราอย่างเต็มที่ ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ปล่อยให้ผ่านไปไม่ได้” นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กล่าวถึงความคืบหน้า กรณี น.ส.สมศรี ยิ้มแฉล้ม ลูกจ้างประจำตำแหน่งพนักงานทั่วไป (กวาด) ฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ สำนักงานเขตสะพานสูง ที่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุขณะปฏิบัติหน้าที่โดยรถคันที่ก่อเหตุได้ขับหลบหนีไป บริเวณถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก แขวงและเขตสะพานสูง เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2565 ภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 22/2565 ณ ห้องประชุมชั้น 19 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 65

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ขณะนี้ พบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว ซึ่งหลังจากทราบเหตุ ทาง กทม. โดย พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ประสานกับทางตำรวจตลอด ไม่ใช่แค่พนักงานของ กทม. ไม่ว่าจะเป็นประชาชนคนไหนก็ตามถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ก็ต้องจับให้ได้อยู่แล้ว

“ประเด็นสำคัญ คือ ถ้าเกิดอุบัติเหตุแบบนี้ต้องหยุดรถและลงมาช่วย อย่างกรณีของพี่สมศรี คนชนจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาบาดเจ็บหรือเสียชีวิตหรือเปล่า และตกอยู่ข้างพงหญ้าไม่มีใครเห็น อย่างไรก็ตาม ต้องลงมาช่วยคนเจ็บก่อน ถ้าเขาบาดเจ็บยังช่วยชีวิตได้” ผู้ว่าฯ ชัชชาติกล่าว
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวเสริมว่า ในที่เกิดเหตุมีเศษกระจกรถยนต์แตก แต่ไม่มีภาพจากกล้องวงจรปิด ไม่เห็นทะเบียน เห็นแต่รูปร่างรถ ปรากฏว่าไล่ภาพไปจนเจอรถคันหนึ่งเข้าไปในโกดัง พนักงานที่อยู่ในโกดังเดินไปดูไฟซ้ายก่อน คนขับเดินลงมาก็ไปดูไฟท้ายก่อนเลย พูดง่าย ๆ ว่าต้องไปชนอะไรมา สุดท้ายก็รับสารภาพ จะเห็นว่ากล้อง CCTV เป็นเรื่องสำคัญ หากเรามีเครือข่ายที่ครบและร่วมมือกันเอาจริงเอาจัง หลาย ๆ เหตุก็สามารถแก้ได้

พล.ต.อ.อดิศร์ กล่าวว่า ได้ประสานงานกับตำรวจ สน.บางชัน และขอขอบคุณ พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รอง ผบช.น. (น.3) ที่ช่วยในการประสานงานไล่ดูกล้อง CCTV ด้วยตนเอง ที่เกิดเหตุเป็นถนนเลนเดียวไม่มีทางแยกไปทางอื่น ทำให้เกิดความสะดวกในการไล่กล้อง แต่ตอนเกิดเหตุอยู่ในช่วงเช้าเห็นรถแต่ไม่เห็นทะเบียนรถ ไปได้ทะเบียนรถที่ศูนย์บริการสินค้าของขนส่งเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งมีปัญหาเรื่องเวลาที่ปรากฏในกล้องทั้งของ กทม. และตำรวจ ไม่ตรงกัน จะได้มีการปรับคุณภาพกล้องให้สามารถใช้งานได้ร่วมกัน โดยเฉพาะกล้องของเอกชนที่มีอยู่หลายแสนตัวใช้กับการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ กทม. ให้เกิดประโยชน์ได้ โดยผู้ก่อเหตุให้การว่ากำลังจะขับรถไปรับสินค้า แต่เผลอมองโทรศัพท์มือถือ ทำให้รถเสียหลักไปชนคุณสมศรี ขณะที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ เวลาประมาณ 05.10 – 05.15 น. และไม่ได้จอดรถเพื่อจะลงไปช่วยนำส่งโรงพยาบาล ถ้าจอดรถและลงไปดูน่าจะช่วยชีวิตได้ถ้าชนไม่หนัก ที่สำคัญคือ ไม่แจ้งเหตุให้กับเจ้าหน้าที่ได้ทราบ ก็ยังไปทำงานต่อและขับรถกลับไปบ้าน

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 14.00 น. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แถลงการดำเนินคดี "ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย" ชนพนักงานกวาด ฝ่ายรักษาความสะอาดฯ เขตสะพานสูง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สุระพรรณ นาทวรทัต ผบก.น.4 พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู รองผบก.น.4 และ พ.ต.อ.วสุ เชื่อพุทธ ผกก.สน.บางชัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งได้สั่งการให้เร่งรัด สืบสวนปราบปราม จับกุมผู้กระทำผิด ซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยทั่วไป รวมทั้งคดีที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน
โดยเมื่อวันที่ 10 ต.ค.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนหาข่าวเกี่ยวกับคดีดังกล่าวจนทราบว่ารถยนต์กระบะที่ก่อเหตุในคดีดังกล่าวคือรถยนต์กระบะยี่ห้อ ISUZU รุ่น D-Max สีขาวหมายเลขทะเบียน 3ฒฎ-4420 กรุงเทพมหานคร มีนายอรรคพล นิมะ เป็นผู้ขับขี่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุมตัวนายอรรคพลฯ ที่บ้านเลขที่ 191 ซอยราษฎร์พัฒนา 30 แขวงราษฎร์พัฒนา เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจนครบาลบางชัน ได้ใช้เวลาในการสืบสวน จับกุมตัวผู้กระทำความผิดได้ภายใน 24 ชั่วโมง


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น