ผู้ว่าฯชัชชาติ ปาฐกถา เรื่อง “จากเล็กสู่ใหญ่ : มองการเมืองและประเทศไทยแบบ 360 องศา" ย้ำเส้นเลือดฝอยเป็นสิ่งสำคัญการพัฒนาการเมือง - MSK News

Breaking

Home Top Ad

วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2565

ผู้ว่าฯชัชชาติ ปาฐกถา เรื่อง “จากเล็กสู่ใหญ่ : มองการเมืองและประเทศไทยแบบ 360 องศา" ย้ำเส้นเลือดฝอยเป็นสิ่งสำคัญการพัฒนาการเมือง

เมื่อวันที่ 26 ส.ค.65 เวลา 13.45 น. : นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ปาฐกถานำ เรื่อง “จากเล็กสู่ใหญ่ : มองการเมืองและประเทศไทยแบบ 360 องศา” หนึ่งในการปาฐกถาและงานสัมมนานำเสนอยุทธศาสตร์เรื่อง “ยุทธศาสตร์เพื่อการพัฒนาการเมือง” ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยสถาบันพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งจัดขึ้น โดยมี นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวเปิดงาน ร่วมด้วย คณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง นักศึกษาหลักสูตรพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง (พตส.) ผู้แทนพรรคการเมือง นิสิต นักศึกษา และประชาชนที่สนใจ จำนวน 200 คน ร่วมรับฟัง ณ ห้องเทวกรรมรังรักษ์ สโมสรทหารบก (ส่วนกลาง) ถนนวิภาวดีรังสิต เขตพญาไท

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ระบอบประชาธิปไตยคือความสำคัญของการสร้างระบบจากฐานรากที่เริ่มจากเล็กไปสู่ใหญ่ได้

หน้าที่ของ กกต.ไม่ใช่แค่จัดเลือกตั้ง แต่ยังต้องสร้างความเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย และสร้างความโปร่งใสให้กับคนได้ ถ้าหากเด็กรุ่นใหม่ไม่ได้รู้สึกว่านักการเมืองน่ารังเกียจ นั่นคือการสร้างระบบจากฐานรากว่าประชาธิปไตยมีความหมาย สร้างคำตอบให้ประเทศได้

นอกจากนี้ จากเล็กไปใหญ่ หมายถึงความสำคัญของเส้นเลือดฝอยในการพัฒนาการเมือง เนื่องจากกรุงเทพฯ ก็เหมือนร่างกายคน มีเส้นเลือดใหญ่ และเส้นเลือดฝอย แต่ที่ผ่านมาชอบลงทุนกับเส้นเลือดใหญ่ แต่พอเป็นเส้นเลือดฝอยเข้าชุมชนเราอ่อนแอ ยิ่งเส้นเลือดฝอยตีบ ยิ่งทำงานไม่ได้ เช่น ศูนย์สุขภาพชุมชน ที่เจ้าหน้าที่มีเพียง 80 คน แต่ต้องดูแลคนในชุมชน กว่า 100,000 คน ซึ่งไม่เพียงพอ

"กรุงเทพฯ เราใหญ่ดี เช่นรถไฟฟ้าเรามีทุกสี เป็นสีรุ้ง แต่เส้นเลือดฝอยเปราะบาง ทางเดินไม่สะดวก รอรถตู้นาน รถประจำทางน้อย ต้องรอคิววินมอเตอร์ไซค์ มันคือระบบใหญ่ดี แต่เล็กไม่ดี แม้กระทั่งการจัดการขยะ แม้จะมีเตาเผาราคาหมื่นล้าน แต่หน้าบ้านก็ยังมีขยะอุดตัน ส่วนอุโมงค์ยักษ์ที่ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา ดังนั้นจึงต้องให้ความสำคัญอย่าละเลยเล็ก เช่น การลอกท่อระบายน้ำ" ชัชชาติ กล่าว

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวอีกว่า จากผลการสำรวจความเห็นที่พบว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองน่าเที่ยว อันดับ 1 แต่เป็นเมืองน่าอยู่อันดับ 98 จาก 144 เมือง ดังนั้นหากทำเมืองให้น่าอยู่ขึ้น นักท่องเที่ยวจะอยากมาท่องเที่ยวเอง ดังนั้นจึงมีกรอบนโยบาย '9ดี' คือ บริหารจัดการดี สุขภาพดี สร้างสรรค์ดี สิ่งแวดล้อมดี ปลอดภัยดี โครงสร้างดี เศรษฐกิจดี เดินทางดี เรียนดี และพัฒนามาเป็น 216 แผน

"หลักการเอาชนะโลกได้คือ การหาเครือข่ายนอกองค์กร เพราะคนฉลาดส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ในองค์กรเรา เราต้องหาแนวร่วม เพื่อจะหาคำตอบให้เมือง คนเก่งๆมีศักยภาพพร้อมทุกอย่างจึงเปรียบเสมือนยักษ์ ดังนั้นเราไม่ต้องเป็นยักษ์ แต่เราต้องได้ยักษ์มาเป็นพวกให้ได้ แล้วอาศัยอยู่บนบ่ายักษ์เพื่อให้เราสามารถมองเห็นทุกอย่างได้กว้างไกลกว่า เพื่อไปถึงเป้าหมาย " ชัชชาติ กล่าว

ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยสถาบันพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งได้จัดการศึกษาอบรมหลักสูตรการพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง รุ่นที่ 12 (พตส. 12) และกำหนดให้นักศึกษาหลักสูตรพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง รุ่นที่ 12 นำเสนอผลงานการจัดทำยุทธศาสตร์เพื่อการพัฒนาการเมืองต่อสาธารณะ ซึ่งนักศึกษาฯ ได้กำหนดจัดงานสัมมนานำเสนอยุทธศาสตร์ ในวันที่ 26 ส.ค.65 โดยมีศาสตราจารย์ ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็นประธานนักศึกษาพตส. รุ่นที่ 12 ซึ่งในงานจะมีการนำเสนอ “ยุทธศาสตร์การพัฒนาการเมือง” ของนักศึกษา พตส. รุ่นที่ 12 กลุ่มที่ 1 ยุทธศาสตร์ว่าด้วยการพัฒนาพรรคการเมือง โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชูวงศ์ อุบาลี กลุ่มที่ 2 ยุทธศาสตร์ว่าด้วยการพัฒนาสถาบันทางการเมือง (รัฐสภาไทย) โดย พล.ต.หญิง อังคณา สุเมธสิทธิกุล กลุ่มที่ 3 ยุทธศาสตร์ว่าด้วยการพัฒนาการมีส่วนร่วมของประชาชน โดย นายประวัติ เทียนขุนทด กลุ่มที่ 4 ยุทธศาสตร์ว่าด้วยการพัฒนาการปฏิบัติหน้าที่ตามหลักธรรมาภิบาลของ กกต. โดย นางณฐพร ชลายนนาวิน นอกจากนี้มีวิพากษ์ “ยุทธศาสตร์เพื่อการพัฒนาการเมือง” โดย รองศาสตราจารย์ ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา และดร.สธร ธนานิธิโชติ ผู้อำนวยการสำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย สถาบันพระปกเกล้า ในงานดังกล่าวอีกด้วย (ขอบคุณภาพและข่าวจากเพจprbangkok.com)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad