รองประธานวุฒิสภา เปิดกิจกรรม "หยุดสูญเสีย หยุดรถ ให้คนข้ามทางม้าลาย #ความดีที่คุณทำได้" ครั้งที่ 3 ตอน..เสียงจากเหยื่อและห้องฉุกเฉิน.. - MSK News

Breaking

Home Top Ad

วันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2565

รองประธานวุฒิสภา เปิดกิจกรรม "หยุดสูญเสีย หยุดรถ ให้คนข้ามทางม้าลาย #ความดีที่คุณทำได้" ครั้งที่ 3 ตอน..เสียงจากเหยื่อและห้องฉุกเฉิน..

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่  21 เม.ย.2565 นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย  รองประธานวุฒิสภา เป็นประธานเปิดงานกิจกรรม "หยุดสูญเสีย หยุดรถ ให้คนข้ามทางม้าลาย #ความดีที่คุณทำได้" ครั้งที่ 3ตอน..เสียงจากเหยื่อและห้องฉุกเฉิน...หยุดอุบัติเหตุ หยุดสูญเสีย   ณ ลานวิคตอรีพอยต์ อนุสาวรีชัยสมรภูมิ เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร  

ร่วมด้วยคณะกรรมการบูรณาการกู้ชีพฉุกเฉินและความปลอดภัยทางถนน วุฒิสภา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานเขตราชเทวี สภากาชาดไทย และภาคีเครือข่ายร่วมกันจัดกิจกรรมรณรงค์ “หยุดสูญเสีย หยุดรถ ให้คนข้ามทางม้าลาย #ความดีที่คุณทำได้” ครั้งที่ 3 ร่วมแจกสื่อประชาสัมพันธ์ สร้างจิตสำนึกผู้ขับขี่ ให้หยุดรถตรงทางม้าลาย ลดความเร็วเขตชุมชน-ชะลอก่อนถึงทางแยกทางข้าม พร้อมชมละครสั้นชุด “สูญเสีย” และเสวนาหัวข้อ “เสียงจากเหยื่อและห้องฉุกเฉิน..หยุดอุบัติเหตุ หยุดสูญเสีย” และวิทยากรผู้เชี่ยวชาญและเหยื่อผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุ 

ทั้งนี้เพื่อเป็นการลดการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนให้ได้ตามเป้าหมายของประเทศ จึงอยเชิญชวนผู้ขับขี่ชะลอความเร็วเมื่อเห็นทางข้ามทางม้าลาย ใช้ความเร็วที่ปลอดภัย 30 กม./ชม. เมื่อขับผ่านชุมชน โรงเรียน โรงพยาบาล ตลาด และขับเคลื่อนความปลอดภัยทางถนนร่วมกันอย่างเป็นระบบ โดยเน้นดำเนินการดังนี้ 




1.ลดพฤติกรรมเสี่ยงและเพิ่มพฤติกรรมความปลอดภัย

 2.สร้างสภาพสังคมและสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อความปลอดภัยเน้นที่กลุ่มเสี่ยงและพื้นที่เสี่ยง

 3.ข้ามถนนตรงทางข้ามทางม้าลายหรือทางแยกที่มีสัญญาณไฟ 






โดยครั้งนี้มีเวทีเสวนา รับฟัง “เสียงจากเหยื่อและห้องฉุกเฉิน..หยุดอุบัติเหตุ หยุดสูญเสีย” มีเหยื่ออุบัติเหตุสะท้อนความรู้สึกร่วมกับทีมกู้ชีพและแพทย์ผู้ปฏิบัติงานในห้องฉุกเฉิน โดยทุกภาคส่วนมีเป้าหมายร่วมเพื่อสร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัยทางถนนให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน รวมถึงคนเดินเท้าและคนข้ามทางม้าลายปลอดภัยและหวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนี้ทั่วประเทศไทย 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น