นายกฯ ประชุม ศบค.เห็นชอบยกเลิก Test & Go สำหรับเดินทางเข้าไทย 1 พ.ค. 65 ย้ำเตรียมพร้อมรองรับเปิดภาคเรียนเดือน พ.ค. แนะผู้ปกครองฉีดวัคซีนให้ครบตามเกณฑ์ ลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อกลุ่มเด็กเล็ก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 65 เวลา 09.30 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 7/2565 ย้ำเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดภาคเรียนในเดือน พ.ค. 65 เห็นชอบปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร พื้นที่เฝ้าระวังสูง 65 จังหวัด พื้นที่นำร่องท่องเที่ยว 12 จังหวัด เห็นชอบปรับมาตรการการเดินทางเข้าราชอาณาจักร สำหรับผู้เดินทางที่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ และผู้เดินทางที่ไม่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ หรือได้รับแต่ไม่ครบตามเกณฑ์ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 65 ทั้งนี้ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อที่ประชุมว่า จากการติดตามและประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา พบว่าผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มลดลง ขณะที่ผู้เสียชีวิต มีจำนวนเพิ่มขึ้น โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว ไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด - 19 ได้รับไม่ครบตามเกณฑ์ หรือได้รับนานเกิน 3 เดือน จึงขอให้เร่งรัดการฉีดวัคซีนให้ครบตามเกณฑ์และกลุ่มเป้าหมายโดยเร็วที่สุด พร้อมแนะนำพ่อ-แม่ ผู้ปกครอง ฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะแพร่เชื้อให้เด็กเล็ก ขณะเดียวกัน ขอให้ สธ. ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดในระยะ 2 - 4 สัปดาห์หลังช่วงเทศกาลสงกรานต์อย่างใกล้ชิด
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขณะนี้นักท่องเที่ยวมีแนวโน้มเดินทางเข้ามาประเทศไทยมากขึ้น จึงต้องเตรียมมาตรการรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาประเทศไทยที่มีประสิทธิภาพ จึงขอให้ทุกฝ่ายดำเนินการปรับปรุงขั้นตอน โดยเฉพาะมาตรการในการตรวจลงตรา และการตรวจคัดกรองนักท่องเที่ยว/ผู้เดินทางที่สนามบิน ตลอดจนการนำส่งโรงแรมที่พัก ซึ่งวันนี้ต้องขอบคุณกระทรวงคมนาคมและทุกหน่วยงานที่ทำงานหน้างานและมีความก้าวหน้ามาโดยตลอด ขณะที่หลายประเทศมีการผ่อนคลายพอสมควรจนเกือบเป็นปกติ อย่างไรก็ตาม การใช้หน้ากากอนามัยยังเป็นสิ่งสำคัญที่แสดงให้เห็นผลอย่างชัดเจนว่าสามารถป้องกันการแพร่ระบาดติดเชื้อได้มาก
นายกรัฐมนตรีย้ำถึงการเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดภาคเรียนในเดือนพฤษภาคม 2565 ให้เร่งการฉีดวัคซีนเข็ม 1 เข็ม 2 และเข็มกระตุ้นให้แก่นักเรียนได้ทันก่อนการเปิดภาคเรียน และพิจารณาแนวทางการจัดการเรียนการสอน เพื่อให้นักเรียนได้มีโอกาสเรียนจากในห้องเรียน (On-site) มากขึ้น สำหรับประชาชน/ผู้ปกครองยังมีความกังวลกับสถานการณ์การแพร่ระบาด อาจพิจารณาจัดการเรียนการสอนทั้งแบบ On-site Online On Hand ตามความสมัครใจของผู้ปกครอง โดยต้องขอความร่วมมือจากสถานศึกษาว่าทุกอย่างต้องมีมาตรการที่เข้มงวดเพื่อจะให้เปิดภาคเรียนให้ได้ ขณะที่ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขได้มีการวางแผนการปฏิบัติของหน่วยงานมาระยะเวลาหนึ่งแล้วเพื่อเตรียมการเข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่น ทั้งในกลไกและโครงสร้างการบริหารงาน การบูรณาการและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความมั่นใจของประชาชนต่อระบบสาธารณสุขไทย ทั้งนี้ จะต้องนำข้อสังเกตต่าง ๆ มาทบทวนทั้งหมดเพื่อให้สอดคล้องกับบริบทของประเทศไทย ซึ่งทั้งหมดต้องขึ้นกับการปรับตัวของทั้งประชาชน นักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการ ที่จำเป็นต้องร่วมมือกัน
สำหรับมติ ศบค. เห็นชอบการปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร พื้นที่เฝ้าระวังสูง 65 จังหวัด และพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว 12 จังหวัด ให้ดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไปโดยมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด 19 สำหรับพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวและพื้นที่เฝ้าระวังสูง มีดังนี้
1) คงมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด 19 แบบบูรณาการ ตามระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร 1 พ.ย.64 ทั้งนี้ ทุกพื้นที่ ปิดสถานบริการ สถานบันเทิง และสถานบริการอื่นในลักษณะคล้ายกัน
2) ปรับมาตรการบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร หรือสถานที่ที่มีลักษณะเดียวกัน ทั้งในพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว และพื้นที่เฝ้าระวังสูง โดยจำกัดเวลาในการบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์จากไม่เกิน 23.00 น. เป็น ไม่เกิน 24.00 น. และคงการจำกัดประเภทร้านอาหารที่บริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ได้ ต้องเป็นร้านอาหารที่ผ่าน SHA+ หรือ Thai Stop COVID 2 Plus หรือตามมาตรการ COVID Free Setting
3) คงมาตรการสำหรับสถานบริการ สถานประกอบการคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ให้ผู้ประกอบการ เปิดดำเนินการในรูปแบบร้านอาหารได้ตามมาตรการที่กำหนด โดยขออนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กทม. ได้ เมื่อมีความพร้อมโดยไม่กำหนดระยะเวลา
4) WFH (Work From Home) ให้เป็นไปตามความเหมาะสม และการพิจารณาของหน่วยงาน
ศบค. เห็นชอบมาตรการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียน 1/2565
1) สถานศึกษาประเมินตนเองเตรียมพร้อมก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1/2565 ผ่าน TSC+
2) นักเรียนอายุ 12-17 ปี ได้รับวัคซีนโควิด 19 เข็มกระตุ้น (เข็ม 3) ผ่านระบบสถานศึกษา และเร่งฉีดวัคซีนโควิด 19 ในเด็กอายุ 5-11 ปี ตามความสมัครใจของผู้ปกครองและเด็ก
3) นักเรียน ครู บุคลากร ปฏิบัติตามมาตรการ 6-6-7 อย่างเคร่งครัด อาทิ เว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก 100% ล้างมือ ตรวจหาเชื้อด้วย ATK เมื่อมีอาการหรือเสี่ยง หลีกเลี่ยงรวมกลุ่มกัน
4) กรณีนักเรียนติดเชื้อโควิด 19 และเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด
โดยที่ประชุมมอบหมายกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงศึกษาธิการ ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการดำเนินการและกำกับติดตาม
ศบค. เห็นชอบการปรับมาตรการการเดินทางเข้าราชอาณาจักร สำหรับผู้เดินทางที่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ และผู้เดินทางที่ไม่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ หรือได้รับแต่ไม่ครบตามเกณฑ์ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 ดังนี้
- ผู้เดินทางที่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ (Vaccinated Travelers) - ยกเลิกการตรวจเมื่อมาถึง - แนะนำให้ตรวจ Self-ATK ระหว่างพำนัก หากพบเชื้อฯ ให้เข้าสู่กระบวนการตามประกันภัย หรือตามความรับผิดชอบของบุคคล
- ผู้เดินทางที่ไม่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ หรือได้รับแต่ไม่ครบตามเกณฑ์ (Unvaccinated Travelers)
- สามารถยื่นหลักฐานผลตรวจ RT-PCR ไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนเดินทางถึงประเทศไทย และลงทะเบียนแสดงหลักฐานดังกล่าวในระบบ Thailand Pass ก็จะสามารถเดินทางเข้าราชอาณาจักรได้เช่นเดียวกับผู้เดินทางที่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ (Vaccinated Travelers) หรือ - กักตัวตามระบบ AQ โดยตรวจ RT-PCR Day 4-5
- แนะนำให้ตรวจ Self-ATK ระหว่างพำนัก หากพบเชื้อฯ ให้เข้าสู่กระบวนการตามประกันภัย หรือตามความรับผิดชอบของบุคคล
- ปรับลดวงเงินประกันสำหรับผู้เดินทางทั้ง 2 กลุ่ม จากไม่ต่ำกว่า 20,000 เหรียญสหรัฐ เป็นไม่ต่ำ กว่า 10,000 เหรียญสหรัฐ
โดย มอบหมาย ศปก.ศบค. ปรับคำสั่ง ศบค. เพื่อให้มีผลบังคับใช้ 1 พฤษภาคม 2565
นอกจากนี้ ศบค. เห็นชอบมาตรการป้องกันโรคสำหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ผ่านช่องทางผ่านแดนทางบกของกระทรวงมหาดไทย (เฉพาะจุดผ่านแดนถาวร) โดยเห็นชอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัด โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจารณาในการเปิดดำเนินการให้บุคคลเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยผ่านช่องทางผ่านแดนทางบกเฉพาะจุดผ่านแดนถาวรตามมาตรการ กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และเงื่อนไขที่ทางราชการกำหนดโดยเคร่งครัด ทั้งนี้ ก่อนเปิดดำเนินการให้จังหวัดรายงาน ศบค.มท. เพื่อเสนอ ศปก.ศบค. เพื่อประเมินความพร้อมและประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมคนไทย ขอบคุณทุกหน่วยงาน ส่วนราชการ ประชาชน อสม. พร้อมให้กำลังใจกับทุกการทำงานที่ทำให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งไทยได้รับความชื่นชมในเวทีโลก รวมถึงคนไทยทุกคน คนทำงาน เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ สาธารณสุข แม้กระทั่งเรื่องการท่องเที่ยวของไทยที่นำชื่อเสียงให้กับประเทศ โดยนายกรัฐมนตรีขอส่งต่อกำลังใจมาให้คนไทยทุกคน
https://www.blogger.com/blog/page/edit/163607023169952299/4565312937486509077?hl=th#
วันศุกร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2565

Home
สาธารณสุข
Express News
นายกฯ ประชุม ศบค.เห็นชอบยกเลิก Test & Go สำหรับเดินทางเข้าไทย 1 พ.ค. 65 !!
นายกฯ ประชุม ศบค.เห็นชอบยกเลิก Test & Go สำหรับเดินทางเข้าไทย 1 พ.ค. 65 !!
Tags
# สาธารณสุข
# Express News
Share This
About MSK-NEWS
Express News
ป้ายกำกับ:
สาธารณสุข,
Express News
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
Author Details
Templatesyard is a blogger resources site is a provider of high quality blogger template with premium looking layout and robust design. The main mission of templatesyard is to provide the best quality blogger templates which are professionally designed and perfectlly seo optimized to deliver best result for your blog.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น