ครม. เห็นชอบตาม พม. ต่อวาระอีก 3 ปี ให้นายวันชัย รุจนวงศ์ ผู้แทนไทยด้านสิทธิเด็กใน ACWC

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 6  เม.ย. 65  นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รองปลัด พม.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า วานนี้ (5 เม.ย. 65) คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวง พม. เสนอเรื่องการต่อวาระการดำรงตำแหน่งของนายวันชัย รุจนวงศ์ ผู้แทนไทยในคณะกรรมาธิการอาเซียนว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิสตรีและสิทธิเด็ก (ASEAN Commission on the Promotion and Protection of the Rights of Women and Children: ACWC) ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิเด็ก ต่ออีก 1 วาระ เป็นเวลา 3 ปี (วาระตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน 2565 ถึงวันที่ 6 เมษายน 2568)

นางสาวแรมรุ้ง กล่าวต่อไปว่า สืบเนื่องจากการที่นายวันชัย รุจนวงศ์ ผู้แทนไทยด้านสิทธิเด็กใน ACWC จะหมดวาระการดำรงตำแหน่ง (วาระที่ 2) ในวันที่ 7 เมษายน 2565 ดังนั้น กระทรวง พม. ในฐานะส่วนราชการเจ้าของเรื่อง จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกผู้แทนไทยใน ACWC เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการคัดเลือก รวมทั้งพิจารณาการดำรงตำแหน่งต่อของผู้แทนไทย ในกรณีที่เห็นว่าจำเป็นและเหมาะสม ทั้งนี้ คณะกรรมการคัดเลือกผู้แทนไทยใน ACWC ได้มีการประชุมพิจารณาเรื่องดังกล่าวและมีมติเห็นชอบให้นายวันชัย รุจนวงศ์ ดำรงตำแหน่งต่ออีก 1 วาระดังกล่าวข้างต้น เนื่องจากนายวันชัย รุจนวงศ์ มีผลงานที่โดดเด่นและเป็นที่ประจักษ์มาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น การต่อวาระการดำรงตำแหน่งดังกล่าว จะทำให้การดำเนินงานต่าง ๆ ในนามประเทศไทยที่นายวันชัย รุจนวงศ์ ได้ริเริ่มและวางแผนการดำเนินงานไว้แล้ว มีความต่อเนื่องและเป็นไปตามแผนที่กำหนด นอกจากนี้ นายวันชัย รุจนวงศ์ เป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ และความเชี่ยวชาญด้านสิทธิเด็กที่ได้รับการยอมรับทั้งในระดับประเทศ ภูมิภาค และนานาชาติ อีกทั้งหลักการการพิจารณาต่ออายุผู้แทนไทยให้ดำรงตำแหน่งต่อไปดังกล่าว เป็นไปตามขอบเขตและอำนาจหน้าที่ของ ACWC ฉบับปี 2563

นางสาวแรมรุ้ง กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีจึงได้ปรึกษาหารือและมีมติเห็นชอบเรื่องดังกล่าวตามที่กระทรวง พม. เสนอ รวมทั้งให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. ในฐานะรัฐมนตรีที่รับผิดชอบด้านสวัสดิการสังคมและการพัฒนาของประเทศไทย มีหนังสือแจ้งเรื่องการต่อวาระการดำรงตำแหน่งดังกล่าว ไปยังสำนักเลขาธิการอาเซียน ในโอกาสแรกภายหลังจากคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว