บี.กริม เฮลท์แคร์ เดินหน้าเข้าซื้อกิจการเครือ Unison กลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่ด้านเวชภัณฑ์ ยา และผลิตภัณฑ์สุขภาพชั้นนำของไทย - MSK News

Breaking

Home Top Ad

วันอังคารที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2565

บี.กริม เฮลท์แคร์ เดินหน้าเข้าซื้อกิจการเครือ Unison กลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่ด้านเวชภัณฑ์ ยา และผลิตภัณฑ์สุขภาพชั้นนำของไทย

บี.กริม เฮลท์แคร์ เข้าซื้อกิจการของ 1) เมดไลน์ 2) ยูนีซัน 3) เอฟ.ซี.พี. และ 4) ออล รีเสิร์ช สร้างความแข็งแกร่งและเสริมความสามารถในการแข่งขันให้แก่ธุรกิจ สืบสานธุรกิจด้านสุขภาพของกลุ่มบี.กริม สู่ความยั่งยืน ทั้งนี้เครือยูนีซันเป็นผู้นำด้านการผลิตและจัดจำหน่ายยาแผนปัจจุบัน เวชภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพหลากหลายประเภทที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายทั้งในไทยและต่างประเทศ จึงเป็นการผสานประสบการณ์ องค์ความรู้ และพันธมิตรทางธุรกิจของทั้งสององค์กร ขับเคลื่อนให้ธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่ง พร้อมดันบี.กริม เฮลท์แคร์ ขึ้นแท่นผู้นำด้านธุรกิจสุขภาพของประเทศไทย

บี.กริม เฮลท์แคร์ ธุรกิจด้านสุขภาพของกลุ่ม บี.กริม ประกาศเข้าซื้อกิจการของบริษัท เมดไลน์ (Medline) ยูนีซัน (Unison) เอฟ.ซี.พี. (F.C.P.) และ ออล รีเสิร์ช (All Research) โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2565 การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการพัฒนาธุรกิจด้านการดูแลสุขภาพของบี.กริมให้แข็งแกร่ง และเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมตอกย้ำพันธกิจในการส่งเสริมให้ทุกคนในสังคมเข้าถึงผลิตภัณฑ์บริการด้านสุขภาพที่มีคุณภาพ

บี.กริม ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2421 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 โดยเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจยาสมัยใหม่ตำรับตะวันตกภายใต้ชื่อ “ห้างสยามดิสเปนซารี่” ซึ่งถือเป็นร้านขายยาในรูปแบบแพทย์สมัยใหม่แห่งแรกในประเทศไทย เพื่อช่วยเหลือรักษาอาการเจ็บป่วยของผู้คน ตลอดระยะเวลา 144 ปีที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย บี.กริม ยึดมั่นในปรัชญาการ “ดำเนินธุรกิจด้วยความโอบอ้อมอารี” ที่มุ่งสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับสังคมไทยอย่างยั่งยืน นอกเหนือจากธุรกิจด้านสุขภาพที่ บี.กริม ทำมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน บริษัทได้ขยายธุรกิจออกไปในหลากหลายด้าน ทั้งธุรกิจพลังงาน ระบบภายในอาคารและอุตสาหกรรม อสังหาริมทรัพย์ คมนาคม ดิจิทัล และไลฟ์สไตล์

เครือยูนีซันเป็นหนึ่งในธุรกิจครอบครัวที่มีการพัฒนา ลงทุน จนเป็นบริษัทชั้นนำในด้านเฮลท์แคร์ของประเทศไทย เริ่มต้นจากบริษัท เมดไลน์ ผู้นำเข้ายาแผนปัจจุบัน และเวชภัณฑ์ รายใหญ่อย่างต่อเนื่องมากว่า 31 ปี ภายหลังได้ทำการเข้าซื้อกิจการของยูนีซัน (Unison Laboratories หรือ Unison) ซึ่งเป็นโรงงานผลิตยาแผนปัจจุบัน เพื่อเสริมศักยภาพของกันและกัน ทำให้ธุรกิจภายในเครือสามารถตอบโจทย์ได้ทั้งการนำเข้าและการผลิตยาด้วยตนเองตั้งแต่ปีพ.ศ. 2538 เป็นต้นมา ต่อมาได้เริ่มรุกเข้าสู่ธุรกิจเครื่องสำอางและอาหารเสริมด้วยการเข้าซื้อ บริษัทเอฟ.ซี.พี.โดยนำเทคโนโลยีและองค์ความรู้ในการผลิตยาแผนปัจจุบันมาใช้ในการยกระดับมาตรฐานคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ปัจจุบัน เครือยูนีซันมีผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงที่ครอบคลุมการดูแลรักษาหลากหลายกลุ่มโรค ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายทั้งในประเทศไทยและกว่า 20 ประเทศทั่วโลก
ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม กล่าวว่า บี.กริม เฮลท์แคร์ เป็นธุรกิจด้านสุขภาพที่บี.กริม ให้ความสำคัญมาตลอดตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัทในปี พ.ศ. 2421 การเข้าซื้อกิจการของเครือยูนีซันในครั้งนี้ เป็นก้าวสำคัญของ บี.กริม ในการสานต่อปรัชญาการดำเนินธุรกิจด้วยความโอบอ้อมอารี ที่บริษัทถือปฏิบัติในการดำเนินธุรกิจมาตลอด 144 ปีในประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานของความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และชุมชนรอบข้าง มีจุดมุ่งหมายเพื่อยกระดับมาตรฐานชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พร้อมนำความเจริญรุ่งเรืองและความสุขมาสู่สังคมไทย บทบาทของ บี.กริม เฮลท์แคร์ จึงมุ่งสร้างสรรสิ่งที่ดีให้กับประชาชน ส่งเสริมให้ทุกคนในสังคมได้เข้าถึงผลิตภัณฑ์บริการด้านสุขภาพที่มีคุณภาพ สอดคล้องกับกลยุทธ์ด้านความรับผิดชอบต่อชุมชนและสังคม พร้อมส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืน

นางสาวคาโรลีน ลิงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม จอยน์ เว็นเจอร์ โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวว่า เครือยูนีซันเป็นบริษัทชั้นนำด้านธุรกิจเฮลท์แคร์ของประเทศไทยที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง การตัดสินใจเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้ บี.กริม เฮลท์แคร์ และรองรับการขยายธุรกิจต่อไปเพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำในด้านธุรกิจสุขภาพของประเทศไทย บี.กริม เฮลท์แคร์ ยังมีแผนการลงทุนด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลเพิ่มเติม สำหรับรองรับและส่งเสริมธุรกิจการดูแลสุขภาพแบบครบวงจร เตรียมความพร้อมในการรับมือกับความท้าทายด้านการดูแลสุขภาพของผู้คนทั้งในปัจจุบันและอนาคต

การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การสร้างความเติบโตให้แก่กลุ่มธุรกิจ บี.กริม เฮลท์แคร์ โดยมีเป้าหมายสำคัญในการผลักดันให้ไทยให้เป็นศูนย์กลางในด้านการวิจัย พัฒนา และ ผลิตเวชภัณฑ์ ยา และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่มีคุณภาพสูงระดับมาตรฐานสากล นอกจากนี้ ยังเป็นการช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคนในสังคม ด้วยการเข้าถึงยารักษาโรค และผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น