ลาดตระเวน Online สืบนครบาลรวบบอลอ้อมน้อยหลอกนักเรียนทำวีซ่าไปต่างประเทศ - MSK News

Breaking

Home Top Ad

วันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2566

ลาดตระเวน Online สืบนครบาลรวบบอลอ้อมน้อยหลอกนักเรียนทำวีซ่าไปต่างประเทศ


ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง
ผบ.ตร. / ผอ.ศูนย์ปราบปรามอาชญกรรมทางเทคโนโลยีให้ปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบที่สร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ได้ออกลานตระเวนออนไลน์จนทราบถึงความเดือนร้อนจากประชาชน รวมทั้งมีผู้เสียหายร้องเรียนผ่านเพจ “ สืบสวนนครบาล IDMB ” ซึ่งถูกคนร้ายนายบอล ใจเป็นหญิง แฝงตัวเข้าไปในไลน์กลุ่มผู้ปกครองนักเรียนของโรงเรียนนานาชาติชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร จากนั้น ได้โพสต์ข้อความโฆษณาว่าสามารถทำวีซ่าเพื่อใช้ไปเรียนต่อต่างประเทศได้ หากใครสนใจให้ส่งข้อความส่วนตัวไปหานายบอล ซึ่งมีผู้เสียหายหลายรายสนใจ ต่อมาได้ปิดกั้นช่องทางการติดต่อทั้งหมด นักเรียนบางรายมีเงินเพื่อเดินทางหาความรู้แต่ต้องสูญเงินมูลค่าความเสียหายกว่า 300,000 บาท





เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2566 เวลาประมาณ 08.30 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งการ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ,พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.สมบูรณ์ สุขศรีดาวเดือน ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.ต.สัญญลักษ์ สังขะภักดี สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. , ร.ต.ต.อภิสิทธิ์ ดวงใส รอง สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ทำการจับกุมตัว

นายปฎิพล หรือบอล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ที่อยู่ บ้านเลขที่ 219/703 หมู่ 12 ถ.เพชรเกษม ซอยเพชรเกษม 87 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงธนบุรี ที่ 370/2565 ลงวันที่ 7 ธันวาคม 2565 โดยกล่าวหาว่า "ฉ้อโกงทรัพย์"นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม ดำเนินคดีตามกฎหมาย

โดยพฤติการณ์ในการกระทำความผิดคือ ขณะเกิดเหตุ เมื่อประมาณเดือนมีนาคม 2565 ผู้ต้องหาได้แฝงตัวเข้าไปในไลน์กลุ่มผู้ปกครองนักเรียนของโรงเรียนนานาชาติชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร จากนั้น ได้โพสต์ข้อความโฆษณาว่าสามารถทำวีซ่าเพื่อใช้ไปเรียนต่อต่างประเทศได้ หากใครสนใจให้ส่งข้อความส่วนตัวไปหาผู้ต้องหา ซึ่งมีผู้เสียหายหลายรายสนใจ จึงได้ติดต่อเพื่อทำวีซ่ากับผู้ต้องหา และจ่ายเงินค่าดำเนินการตามที่ผู้ต้องหาเรียกร้องมา และเมื่อถึงเวลาที่ตกลงกันไว้ ผู้เสียหายจึงได้ทวงถามความคืบหน้าการทำวีซ่ากับผู้ต้องหา แต่ปรากฎว่าผู้ต้องหาได้ปิดกั้นช่องทางการติดต่อทั้งหมด ทำให้ผู้เสียหายไม่สามารถติดต่อผู้ต้องหาได้ ผู้เสียหายทราบว่าถูกฉ้อโกงเอาเงินไปแน่นอนแล้ว จึงรวมตัวกันมาแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหา โดยมีผู้เสียหายรวม 3 ราย ความเสียหายรายละ 100,000 บาท ซึ่งรวมแล้วมีมูลค่าความเสียหายมากกว่า 300,000 บาท


จากการตรวจสอบประวัติการกระทำความผิด พบว่าผู้ต้องหากระทำความผิดในลักษณะเดียวกันนี้ อีก 2คดี และมีหมายจับอื่นๆ อีก คือ
1.หมายจับศาลแขวงธนบุรี ที่ 371/2565 ลง 7 ธันวาคม 2565 ข้อหา "ฉ้อโกงทรัพย์" สน.ท่าข้าม
2.หมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ที่ จ.207/2565 ลง 24 มิถุนายน 2565 ข้อหา"ยักยอกและฉัอโกง" สน.ทุ่งมหาเมฆ

ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าช่วง covid มีปัญหาเรื่องเงินจึงก่อเหตุ

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า นโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้จัดชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบสวนติดตามคนร้ายที่เป็นภัยออนไลน์ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก และยังก่อเหตุต่อเนื่อง จึงฝากเตือนไปยังประชาชนอย่าหลงเชื่อการหลอกลวงโดยอ้างเป็นหน่วยงานเอกชน หรือเป็นบุคคลอื่น ๆ รวมถึงการหลอกให้ลงทุนหรือก็ยืมเงินในรูปแบบต่างๆ เพื่อหลอกให้ประชาชนหลงเชื่อ และทำการโอนเงินไปยังบัญชีคนร้าย ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น