นายกฯกำชับแม้ผ่อนคลายโควิด-19 แต่ต้องป้องกันตนเองตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด หวังเศรษฐกิจฟื้นตัวตามคาดการณ์ - MSK News

Breaking

Home Top Ad

วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2565

นายกฯกำชับแม้ผ่อนคลายโควิด-19 แต่ต้องป้องกันตนเองตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด หวังเศรษฐกิจฟื้นตัวตามคาดการณ์



โฆษกรัฐบาลเผยนายกรัฐมนตรีกำชับแม้ผ่อนคลายมาตรการแทบจะเป็นปกติ แต่ยังต้องป้องกันตนเองตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด หวังเศรษฐกิจฟื้นตัวตามที่คาดการณ์ โดยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 3,236 ราย

วันนี้ (5 มิถุนายน 2565) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเผยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขอความร่วมมือประชาชนทุกคนยังคงปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดต่อไป ถึงแม้ว่ารัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ แทบจะเป็นปกติแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องสวมหน้ากากอนามัยก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง และฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ตามเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ทั้งนี้เพื่อป้องกันตนเองจากเชื้อโควิด-19 และโรคติดต่ออื่น ที่อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงฤดูฝนนี้ สำหรับด้านสถานประกอบการต่าง ๆ โรงเรียน ที่ทำงาน ถึงแม้ว่ามีการผ่อนคลายไม่จำเป็นต้องตรวจ ATK ทุกสัปดาห์ แต่ยังคงต้องดำเนินตามมาตรการ Covid Free Setting อย่างเคร่งครัด รักษาความสะอาดของพื้นที่ ป้องกันเชื้อโรค เพื่อให้ผู้เข้าใช้บริการมั่นใจได้ว่าปลอดโรค ปลอดภัย ทั้งนี้เพื่อช่วยให้ประเทศสามารถเดินต่อไปได้ และเพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัวกลับมาได้ตามที่คาดการณ์ไว้

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 วันนี้ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 3,236 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยในประเทศ 3,234 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 2 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 28 ราย ผู้ที่กำลังรักษาตัว 32,253 ราย และมียอดผู้ที่หายป่วยกลับบ้านแล้ว 5,011 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วย ยืนยันสะสมตั้งแต่ 1 ม.ค. 65 จำนวน 2,243,358 ราย จำนวนผู้ที่หายป่วยสะสมจำนวน 2,235,875 ราย จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 775 ขณะที่รายงานภาพรวมการฉีดวัคซีนโควิด-19 สรุปจำนวนผู้ที่ได้รับได้รับวัคซีนสะสม ตั้งแต่ 28 ก.พ. 64 - 3 มิ.ย. 65 รวม 138,103,194 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็นผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 สะสม 56,791,492 โดส ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 สะสม 52,778,065 โดส และผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 ขึ้นไปสะสม 28,533,637 โดส

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น