นายกฯ มอบโล่ประกาศเกียรติคุณฯ การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ประจำปี 2565 - MSK News

Breaking

Home Top Ad

วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2565

นายกฯ มอบโล่ประกาศเกียรติคุณฯ การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ประจำปี 2565

เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.65 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี   เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 14.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณบุคคลและองค์กรที่มีผลงานยอดเยี่ยมและดีเด่นในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ประจำปี 2565 โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการมูลนิธิ พล.ต.อ.เภา สารสิน พร้อมด้วยบุคคล/องค์กรผู้ได้รับเงินสนับสนุนจากมูลนิธิพล.ต.อ.เภา สารสิน ผู้ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณฯ ทายาท/ครอบครัวผู้เสียสละชีวิต เข้ารับโล่ประกาศเกียรติคุณฯ

นายกรัฐมนตรีกล่าวภายหลังเป็นประธานมอบโล่ประกาศเกียรติคุณบุคคลและองค์กรที่มีผลงานยอดเยี่ยมและดีเด่นในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ประจำปี 2565 ว่า รัฐบาลกำหนดให้การปราบปรามยาเสพติดเป็นนโยบายเร่งด่วนและวาระแห่งชาติที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนและต่อเนื่อง ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจกันของทุกภาคส่วน ในการร่วมกันขับเคลื่อนการทำงานตามนโยบายสำคัญของรัฐบาลตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี ด้านความมั่นคง ตลอดจนต้องยึดมติที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยพิเศษว่าด้วยปัญหายาเสพติดโลก ค.ศ. 2016 ที่ได้มีมติในการแก้ไขปัญหายาเสพติดแนวใหม่ 3 แนวทาง คือ 1) ผู้เสพ คือ ผู้ป่วยที่ควรได้รับการบำบัดรักษาตามวิธีการทางสาธารณสุข 2) การนำพืชเสพติดมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ สาธารณสุข และส่งเสริมเป็นพืชเศรษฐกิจ และ 3) ผู้ค้ายาเสพติด ถือว่าเป็นอาชญากรที่จะต้องได้รับโทษตามพฤติการณ์การกระทำความผิด

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นอกจากนี้ รัฐบาลได้ปรับปรุงกฎหมายยาเสพติด เพื่อรวบรวมจัดทำเป็นประมวลกฎหมายยาเสพติด โดยมุ่งเน้นการแก้ปัญหายาเสพติดของประเทศที่สร้างความสมดุลระหว่างการปราบปรามยาเสพติด การป้องกันและการบำบัดรักษา ทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงกฎหมายต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก เข้าใจง่าย และปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง ตลอดจนเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการทำงาน เพื่อประโยชน์ในการบังคับกฎหมายอย่างเป็นระบบ สิ่งสำคัญคือมาตรการในการป้องกันผู้เสพรายใหม่ การสร้างการรับรู้เพิ่มภูมิคุ้มกันให้ตนเอง รวมทั้งไม่ให้เยาวชนกลุ่มเสี่ยงเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด โดยการนำความรู้เกี่ยวกับยาเสพติดบรรจุอยู่ในหลักสูตรของสถานศึกษาทุกระดับ ส่งเสริมให้หมู่บ้าน ชุมชน และโรงเรียนเป็นแหล่งเรียนรู้เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันชีวิต และป้องกันกลุ่มเสี่ยงที่จะเข้าสู่กระบวนการค้ายาเสพติดให้มีความรู้ในบทลงโทษที่จะได้รับตามกฎหมาย พร้อมทั้งส่งเสริมให้ผู้ที่ผ่านการบำบัดรักษายาเสพติดมีทักษะอาชีพ เพื่อที่จะหารายได้โดยสุจริตเพื่อใช้ในการดำรงชีพ ตลอดจนเพื่อให้การดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดสามารถตอบสนองต่อความต้องการและความคาดหวังของประชาชนและสังคมได้ครบถ้วนในทุกมิติ

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า ได้รับรายงานจากกระทรวงยุติธรรมถึงผลการจับกุมยาเสพติดเมื่อเทียบกับปี 2561 จนถึงปี 2565 มีสถิติที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากการคุมเข้มทุกมาตรการ จับกุม ดำเนินคดี ด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วน รวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน โดยขอขอบคุณกระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ร่วมมือกันขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้การทำงานของกระทรวงยุติธรรม ซึ่งต้องอาศัยทุกภาคส่วนที่เป็นเครือข่ายร่วมกันเป็นพลังสำคัญในการขจัดยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทย เพื่อให้ประเทศชาติพัฒนาและมั่นคงตลอดไป 

โดยขอให้ทุกคนรักษาคุณงามความดีไว้ และยึดถือหลักการทำงานที่ยึดประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นสำคัญ ตลอดจนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่บุคคลและองค์กรในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดต่อไป ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีย้ำว่ารัฐบาลเอาจริงเอาจังในเรื่องการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด จะต้องมีการกวาดล้างทั้งสิ้น รวมทั้งนายทุน ด้วยวิธีทางกฎหมายอย่างจริงจัง ขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันอย่างเต็มที่ ยึดประโยชน์ประเทศชาติเป็นสำคัญ และขอความร่วมมือประชาชนให้ช่วยแจ้งเบาะแสมายังช่องทางต่าง ๆ ของภาครัฐ โดยทุกหน่วยงานต้องรับเรื่องไปพิจารณา ตรวจสอบคัดกรองและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น