
ทั้งนี้กรุงเทพมหานคร โดยสำนักอนามัย จัดการฝึกอบรมหลักสูตรนักบริหารสุขภาวะเขตเมือง รุ่นที่ 3 เพื่อพัฒนาแนวคิด ฝึกทักษะการบริหารงานสาธารณสุขเขตเมือง ให้ทันต่อสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของสังคม เพื่อหาแนวทางพัฒนาบริการ ตลอดจนสร้างเครือขายสนับสนุนการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น มุ่งสู่การเป็นผู้นำทางสาธารณสุขเขตเมือง ซึ่งผู้เข้าร่วมอบรม ประกอบด้วย ข้าราชการกรุงเทพมหานคร สังกัดสำนักอนามัย และสำนักการแพทย์ จำนวนทั้งสิ้น 27 คน โดยกิจกรรมในครั้งนี้ ผู้เข้ารับการฝึกอบรมฯ ได้นำเสนอผลงานวิชาการรูปแบบ “Smart journey from illness to the end of life ยุคสมัยแห่งการพัฒนาปฐมภูมิ กทม.” ที่แสดงถึงความสัมพันธ์ของการให้บริการในระบบปฐมภูมิที่มุ่งเน้นการดูแลต่อเนื่องตลอดชีวิต ตั้งแต่การส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันควบคุมโรค การรักษาพยาบาล และการฟื้นฟูสภาพ ตลอดจนประสานงานกับหน่วยบริการสุขภาพที่เกี่ยวข้อง ในลักษณะเครือข่ายเพื่อร่วมดูแลผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) จนถึงการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคองระยะสุดท้าย บนพื้นฐานการบริการที่เชื่อมโยงหลายมิติทั้งด้านกาย/จิต/สังคม/จิตวิญญาณ ให้ผู้รับบริการได้ใช้ช่วงเวลาของการมีชีวิตอย่างสมดุล และมีความสุขตามสมควรแม้อยู่ในภาวะเจ็บป่วย พร้อมด้วยการนำเสนอชุดนิทรรศการแสดงผลการศึกษาที่ผ่านกระบวนการวิจัย จำนวน 2 เรื่อง ประกอบด้วย 1) การพัฒนาระบบบริการปฐมภูมิสำหรับผู้ป่วยโรคเรื้อรังในสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของศูนย์บริการสาธารณสุข สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร และ 2) การพัฒนารูปแบบการดูแลผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายแบบประคับประคองในสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ศูนย์บริการสาธารณสุข สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร รวมทั้งบูทกิจกรรมเพื่อสร้างความเข้าใจในการดูแลผู้ป่วย จำนวน 5 บูธ ได้แก่ 1. Smart check up 2. Smart eating 3. Don't drink & smoke to Smart life 4. Living Will และ 5. พินัยกรรมชีวิต
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพบุคลากร โดยเฉพาะหลักสูตรด้านการบริหาร ด้านการแพทย์และสาธารณสุข ซึ่งผู้เข้ารับการฝึกอบรมจะได้รับการพัฒนาความรู้ ทักษะ ทั้งด้านการให้บริการ ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ เพื่อพร้อมที่จะให้บริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากการบริการระบบปฐมภูมินับว่าเป็นหัวใจสำคัญของการดูแลประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ศูนย์บริการสาธารณสุขถือว่าเป็นด่านหน้าที่ใกล้ชิดประชาชน เป็นที่ปรึกษาและเป็นศูนย์กลางของการส่งเสริม ป้องกัน และดูแลรักษาปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพของประชาชนในชุมชน ซึ่งการนำเสนอผลงานในการอบรมในครั้งนี้ จะก่อให้เกิดประโยชน์ในการนำผลงานไปพัฒนาต่อยอดให้เกิดประโยชน์กับประชาชนในกรุงเทพมหานครต่อไป และขอขอบคุณบุคลากรด่านหน้าทุกๆ ท่าน ที่เสียสละร่วมฝ่าฟันวิกฤติโควิด-19 มาด้วยกัน จนถึงช่วงที่สถานการณ์ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีแนวโน้มในทิศทางที่ดีขึ้น และประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติ







ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพบุคลากร โดยเฉพาะหลักสูตรด้านการบริหาร ด้านการแพทย์และสาธารณสุข ซึ่งผู้เข้ารับการฝึกอบรมจะได้รับการพัฒนาความรู้ ทักษะ ทั้งด้านการให้บริการ ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ เพื่อพร้อมที่จะให้บริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากการบริการระบบปฐมภูมินับว่าเป็นหัวใจสำคัญของการดูแลประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ศูนย์บริการสาธารณสุขถือว่าเป็นด่านหน้าที่ใกล้ชิดประชาชน เป็นที่ปรึกษาและเป็นศูนย์กลางของการส่งเสริม ป้องกัน และดูแลรักษาปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพของประชาชนในชุมชน ซึ่งการนำเสนอผลงานในการอบรมในครั้งนี้ จะก่อให้เกิดประโยชน์ในการนำผลงานไปพัฒนาต่อยอดให้เกิดประโยชน์กับประชาชนในกรุงเทพมหานครต่อไป และขอขอบคุณบุคลากรด่านหน้าทุกๆ ท่าน ที่เสียสละร่วมฝ่าฟันวิกฤติโควิด-19 มาด้วยกัน จนถึงช่วงที่สถานการณ์ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีแนวโน้มในทิศทางที่ดีขึ้น และประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติ









%20(%E0%B8%9E%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%B8%E0%B9%8B%E0%B8%A2)%20%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%93%E0%B8%B7%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C.jpeg)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น