นายกฯ หารือ ประธานาธิบดี KOSOVO เห็นพ้องเพิ่มความร่วมมือในสาขาที่มีศักยภาพ อาทิ เศรษฐกิจ ท่องเที่ยวและวัฒนธรรม - MSK News

Breaking

Home Top Ad

วันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2565

นายกฯ หารือ ประธานาธิบดี KOSOVO เห็นพ้องเพิ่มความร่วมมือในสาขาที่มีศักยภาพ อาทิ เศรษฐกิจ ท่องเที่ยวและวัฒนธรรม

นายกฯ หารือ ประธานาธิบดีคอซอวอ เห็นพ้องเพิ่มพูนความร่วมมือในสาขาที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวและวัฒนธรรม และความร่วมมือเพื่อการพัฒนา

เมื่อวันที่  24 มิถุนายน 2565  เวลา 15.00 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นางวีโยซา ออสมานี ซาดรีอู (H.E. Mrs. Vjosa Osmani Sadriu) ประธานาธิบดีสาธารณรัฐคอซอวอ เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยในฐานะแขกของกระทรวงการต่างประเทศ และเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำสตรีโลก (Global Summit of Women: GSW) ประจำปี 2565 โดยภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญ ดังนี้

นายกรัฐมนตรีต้อนรับประธานาธิบดีคอซอวอ พร้อมทั้งชื่นชมบทบาทของประธานาธิบดีคอซอวอที่ได้ผลักดันประเด็นด้านสตรีในเวทีระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง มีส่วนสร้างการรับรู้เกี่ยวกับคอซอวอแก่สาธารณชนชาวไทย ตลอดจนยินดีที่ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับคอซอวอมีพัฒนาการที่ดีมาตลอดระยะเวลา 9 ปี โดยการเยือนไทยในครั้งนี้ ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ในความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ และมีส่วนช่วยเพิ่มพลวัตในความร่วมมือระหว่างกันมากยิ่งขึ้น โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีกับการเปิดทำการสถานเอกอัครราชทูตคอซอวอประจำประเทศไทยอย่างเป็นทางการในวันนี้ ซึ่งถือเป็นสถานเอกอัครราชทูตคอซอวอแห่งแรกในอาเซียน โดยนายกรัฐมนตรียืนยันว่าไทยพร้อมสนับสนุนการดำเนินงานของสถานเอกอัครราชทูตฯ อย่างเต็มที่ เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมืออันดีระหว่างกัน

ประธานาธิบดีคอซอวอยินดีที่ได้เดินทางเยือนประเทศไทยและพบหารือร่วมกับนายกรัฐมนตรีในวันนี้ พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณรัฐบาลไทยในนามของประชาชนชาวคอซอวอ ที่ไทยได้ให้การรับรองคอซอวอ โดยไทยเป็นมิตรประเทศที่ดีของคอซอวอ และในปี 2566 จะครบรอบ 10 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน ประธานาธิบดีคอซอวอหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะเพิ่มพูนความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างให้ใกล้ชิด ความก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน การท่องเที่ยว และเพิ่มพูนความสัมพันธ์ในระดับประชาชนของทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ ประธานาธิบดีคอซอวอหวังว่าจะได้มีโอกาสให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีในโอกาสเดินทางเยือนคอซอวอในอนาคต

นายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีคอซอวอ เห็นพ้องกันว่า ไทยและคอซอวอยังมีโอกาส และศักยภาพที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ระหว่างกันได้อีกมาก ได้แก่

ด้านเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรียืนยันความพร้อมของไทยในการส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจกับคอซอวอ โดยไทยเป็นผู้ผลิตและผู้ส่งออกอาหารลำดับต้น ๆ ของโลก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์สินค้าฮาลาล และอีกหลายสาขาที่ภาคเอกชนสามารถร่วมมือกันได้ ประธานาธิบดีคอซอวอมีกำหนดการจะพบหารือกับนักธุรกิจสำคัญของไทยในการเยือนครั้งนี้ด้วยจึงถือเป็นโอกาสเพิ่มพูนความร่วมมือด้านการลงทุนระหว่างกัน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียินดีและพร้อมให้การสนับสนุนหากภาคเอกชนทั้งสองฝ่ายประสงค์ให้มีการจัดตั้งหอการค้าไทย-คอซอวอ

ด้านการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมมือผลักดันการแลกเปลี่ยนด้านการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมระหว่างกัน ประธานาธิบดีคอซอวอเชื่อมั่นว่าการจัดตั้งสถานเอกอัครราชทูตคอซอวอประจำประเทศไทยจะมีส่วนช่วยส่งเสริมการแลกเปลี่ยนการท่องเที่ยวระหว่างกันมากขึ้น นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียินดีสนับสนุนให้มีการหารือร่วมกันเพื่อจัดทำความตกลงด้านวัฒนธรรม แผนปฏิบัติการด้านการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ตลอดจนร่วมกันประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นผ่านช่องทางสื่อสารที่ทันสมัย

ด้านการพัฒนา นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ยินดีที่จะส่งเสริมความร่วมมือกับคอซอวอในสาขาที่ไทยมีความเชี่ยวชาญ อาทิ ความมั่นคงทางอาหาร การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ การเกษตรอย่างยั่งยืน และการพัฒนาบุคลากร ภายใต้หลักสูตรฝึกอบรมนานาชาติประจำปี (Annual International Training Courses: AITC) ของกระทรวงการต่างประเทศ คอซอวอขอบคุณน้ำใจของไทย และแสดงความสนใจที่จะมีความร่วมมือเพื่อการพัฒนากับไทยในสาขาการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และการศึกษา

สำหรับประเด็นที่คอซอวอแสดงความสนใจในการจัดทำความตกลงต่าง ๆ กับไทยเพิ่มเติม ได้แก่ ความตกลงเพื่อการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุน อนุสัญญาเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อน และบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดตั้งกลไกการหารือทางการเมือง ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาร่วมกันในรายละเอียดต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น