ตามคาด "เพื่อไทย" ถีบ "ก้าวไกล" ไม่สนมติประชาชน-ร่านข้ามขั้วผสมพันธ์ุประกาศเป็นแกนนำตั้งรบ......P - MSK News

Breaking

Home Top Ad

วันพุธที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2566

ตามคาด "เพื่อไทย" ถีบ "ก้าวไกล" ไม่สนมติประชาชน-ร่านข้ามขั้วผสมพันธ์ุประกาศเป็นแกนนำตั้งรบ......P


การเมืองที่ทำเอาประชาชนที่ติดตามความร้อนแรง ร้อนระอุ และเริ่มระอุขึ้นตามลำดับเมื่อข่าวที่ประชาชนตามติดคือ "เพื่อไทย"จะข้ามการผสมพันธุ์กับอีกขั้วเพื่อตั้งรัฐบาลให้ได้ แต่การเมืองย่อมมีกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคการเมืองหรือเรียกว่าคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเห็นการเมืองไทย เปลี่ยนแปลงจากกลุ่มอำนาจเก่า กลุ่มผู้ชุมนุมสนับสนุนพรรคก้าวไกล ตั้งขบวนคาร์ม็อบขันหมาก เพื่อนำมาลัยไปคล้องให้ 8 พรรคการเมืองเดิมที่ประกาศทำ MOU กันไว้ แต่เกมพลิก เมื่อเพื่อไทยแถลงหน้าตาเฉยว่า ไม่สามารถให้พรรคก้าวไกล ร่วมในการจัดตั้งรัฐบาลที่พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคแกนนำได้ เรียกว่า ถีบเพื่อนไปอยู่ตรงข้าม การแถลงข่าวจึงตะกุกตะกัก

เมื่อพรรคเพื่อไทยได้ประกาศฉีกสัญญา แยกทาง"ก้าวไกล" ชัดเจน ส่งผลให้กลุ่มทะลุวังนำมวลชนส่วนหนึ่งบุกประท้วง พรรคเพื่อไทย มีการนำเลือดหมูพ่นใส่กำแพงพรรคเพื่อไทยและเผาหุ่นประท้วง

คำอ้างระบุพรรคเพื่อไทยหารือกับก้าวไกล ขอถอนตัวจากการร่วมมือ และเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลพรรคร่วมใหม่ จะไม่สนับสนุน ม.112 และการตั้งรัฐบาลใหม่ จะไม่มีพรรคก้าวไกลอยู่ในพรรคร่วม และพรรคเพื่อไทย จะพยายามรวบรวมเสียงในการตั้งรัฐบาลอย่างเหมาะสม และพรรคก้าวไกลจะเป็นฝ่ายค้าน

ใจความสำคัญที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงผลการหารือร่วมกับคณะเจรจาพรรคก้าวไกลนานกว่า 2 ชั่วโมง พร้อมกับกระแสข่าวที่ระบุว่า เพื่อไทยยอมฉีก MOU 8 พรรคร่วมเพราะไม่สามารถเจรจาให้พรรคก้าวไกล ยอมถอยเรื่องการแก้มาตรา 112 ได้สำเร็จ

ดังนั้นการผ่าทางตันครั้งนี้ เป็นการเริ่มใหม่ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของกลุ่มมวลชนที่สนับสนุนพรรคก้าวไกล และความไม่เห็นด้วยต่อการกระทำของพรรคเพื่อไทยที่คว่ำศรัทธาประชาชน อ้างเหตุหาทางออกให้ประเทศไทย

ข้ออ้างและสิ่งที่ นพ.ชลน่าน ตอกย้ำ คือ พรรคการเมืองอื่นๆและส.ว.ไม่ยอมรับเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 จึงทำให้ไม่สามารถเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ได้ เพื่อไทย จึงหารือกับพรรคก้าวไกล และได้ข้อสรุปถอนตัวจากการร่วมมือกัน และเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลพรรคร่วมใหม่ โดยเสนอชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ ของพรรค เป็นนายกรัฐมนตรี

หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยอมรับลำบากใจที่ต้องตัดสินใจแยกทางกับพรรคก้าวไกล ย้ำว่าไม่มีอะไรสวยงามทุกอย่าง เราพยายามทำในสิ่งที่เสียหายกับประเทศน้อยที่สุด ไม่ใช่เป็นการบอกเลิก แต่จำเป็นจริง ๆ ที่จะชี้แจงเหตุและผล ที่แยกออกมาจัดตั้งรัฐบาลโดยไม่มีพรรคก้าวไกล ยอมรับถูกปิดปากมา 5 วัน อย่าคิดว่าเป็นมรสุม แต่เป็นหน้าที่ที่ต้องทำเพื่อบ้านเมือง

ดังนั้นการแถลงข่าววันที่ 3 ส.ค.66 จะมีตัวแทนจากพรรคร่วมใหม่ มาร่วมวงจับมือการจัดตั้งรัฐบาลทันทีหรือไม่ หลังจากก่อนหน้านี้ พรรคเพื่อไทย เชิญตัวแทนระดับแกนนำมาร่วมดื่ม “มินต์ช็อก” อย่างชื่นมื่น
โดยเฉพาะนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา รวมทั้งพรรคชาติพัฒนากล้า หรือแม้แต่ตัวแทนจากพรรค 2 ลุง พรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ทิ้งไม้ตายไม่เอาก้าวไกล ไม่เอาพรรคแก้มาตรา 112

อย่างไรก็ตามก่อนนั้นพรรคเพื่อไทยเองก็หาเสียงว่าจะมีการแก้ ม.112 เช่นกัน หลังเกิดเหตุการณ์รักเรือรักล่ม ห่างกัน 2 ชั่วโมงเศษ นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล เป็นตัวแทนออกมาแถลงข่าวขอโทษพี่น้องประชาชนที่ไม่สามารถผลักดันการตั้งรัฐบาลผ่านการเลือกตั้งได้สำเร็จ และหลังจากนี้พรรคเพื่อไทยจะแยกไปจัดตั้งรัฐบาลเอง

"ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหน ก็จะทำงานในฐานะผู้แทนราษฎรอย่างดีที่สุดตามที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน" เขากล่าว

ส่วนการถูกผลักไปเป็นฝ่ายค้าน ยอมรับว่า พรรคเพื่อไทยแจ้งกับพรรคก้าวไกลว่าจะขอออกจาก MOU ทั้ง 2 ฉบับทั้งกับ 8 พรรค และ MOU ที่ทำ 2 พรรคในการเลือกประธานสภาฯ

นอกจากนี้ ชัยธวัช ยังทิ้งบอมบ์การเมืองว่า พรรคเพื่อไทย ไม่ได้ขอให้พรรคก้าวไกลถอยมาตรา 112 และตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่เคยเจรจาเรื่องนี้ เพราะให้เหตุผลว่าพรรคการเมือง เกือบทั้งหมดที่พรรคเพื่อไทยไปพูดคุยกัน ไม่ต้องการให้พรรคก้าวไกลเข้าร่วมรัฐบาล ไม่ว่าจะมีมาตรา 112 หรือไม่ก็ตาม และเพื่อไทยก็ไม่ได้ขอให้ก้าวไกลช่วยโหวตนายกฯในวันที่ 4 ส.ค.นี้

ถึงบรรทัดนี้เรียกว่า แม้ประชาชนหลายฝ่ายจะมองว่า เกมจะออกมาแนวนี้ แต่ประชาชนที่เลือกเพื่อไทยและก้าวไกลเข้ามาถล่มทลายก็เพื่อให้การเมืองไทย พ้นวิบากกรรมจากระบอบเผด็จการแฝง การทุจริต คอรัปชั่น โกงกิน ในวงราชการ และอีกมากมายหลากหลายรูปแบบของปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศนี้ จนทำให้กำเนิดพรรคการเมืองของคนรุ่นใหม่ รูปแบบใหม่ และได้รับการเลือกตั้งเข้ามาเพื่อหวังว่าบ้านเมืองจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้อย่างแท้จริง แต่ในที่สุด การเมืองไทยก็ไม่สามารถก้าวข้ามระบบเก่าไปได้เช่นเดิม แต่จากวันนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง สุดท้ายจะเดินไปจบที่ทหารลากรถถัง อาวุธ ออกมาเข่นฆ่า ประชาชนผู้ไม่ยอมรับการตั้งรัฐบาลชุดนี้หรือไม่ ต้องติดตามดูอย่างใกล้ชิด



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น