รองโฆษกฯยันฝ่ายค้าน ต่างชาติยังคงสนใจลงทุนในไทย ของบสภาฯ3.96 แสนล้านบาทเสริมสร้างศักยภาพทางการแข่งขัน - MSK News

Breaking

Home Top Ad

วันพุธที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2565

รองโฆษกฯยันฝ่ายค้าน ต่างชาติยังคงสนใจลงทุนในไทย ของบสภาฯ3.96 แสนล้านบาทเสริมสร้างศักยภาพทางการแข่งขัน

เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2565 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณแผ่นดิน ประจำปี 2566 ซึ่งเนื้อหาบางส่วนมีการวิจารณ์จากสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรฝ่ายค้านว่าโรงงานอุตสาหกรรมย้ายฐานการผลิต เพราะไม่เชื่อมั่นในรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหารและสืบทอดอำนาจ ซึ่งหากดูตัวเลขจริงจะพบว่า ประเทศไทยยังคงได้รับความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างชาติอย่างต่อเนื่อง แม้กระทั่งภายใต้สถานการณ์โควิด19 ดังเห็นได้จาก ในช่วง4 เดือนแรกปี 2565 (ม.ค.- เม.ย.) มีจำนวนนักลงทุนต่างชาติขออนุญาตประกอบธุรกิจ จำนวน 196 ราย เม็ดเงินลงทุนรวม 3.6 หมื่นล้านบาท ธุรกิจส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย (New S-Curve) อาทิ บริการให้ใช้แพลตฟอร์มแอปพลิเคชั่น บริการขุดเจาะปิโตรเลียม บริการตรวจสอบ ซ่อมแซมสินค้าประเภทเครื่องมือแพทย์ บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า บริการรับจ้างผลิตและประกอบรถยนต์ เป็นต้น

มากไปกว่านั้น หากดูตัวเลขจำนวนบริษัทจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ ก็จะพบแนวโน้มในทิศทางเดียวกัน คือมีจำนวนเพิ่มขึ้น ตัวเลขระหว่างเดือนม.ค.- เม.ย.ปีนี้ มีบริษัทจดทะเบียนตั้งใหม่ทั่วประเทศ รวม 28,083 ราย คิดเป็นมูลค่าทุนจดทะเบียน 245,497 ล้านบาท สิ่งนี้สะท้อนถึงความมั่นใจของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและโอกาสเติบโตในระยะยาวของไทย ผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในมิติต่างๆจากภาครัฐ

นางสาวรัชดา กล่าวต่อว่า สำหรับในร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2566 นี้ ภายใต้ยุทธศาสตร์เสริมสร้างความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ รัฐบาลได้เสนอของบประมาณไว้ที่ 3.96 แสนล้านบาท โดยแบ่งเป็นเป้าหมายอาทิ มุ่งเป้าเป็นประเทศชั้นนำด้านสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปมูลค่าสูง งบประมาณ 8 หมื่นล้านบาท ประตูการค้าการลงทุนและยุทธศาสตร์ทางโลจิสติกส์ 1.18 แสนล้านบาท เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) 1.1 หมื่นล้านบาท จุดหมายการท่องเที่ยวที่เน้นคุณภาพและยั่งยืน 7.27 พันล้านบาท เป็นต้น จึงหวังว่า ร่างพ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2566 จะได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนประเทศในช่วงเวลาอันสำคัญยิ่งเช่นนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น