นายกฯชมปตท. ดำเนินโครงการที่ดีเพื่อสังคมต่อเนื่อง ย้ำรัฐมุ่งสร้างความเท่าเทียมให้ความสำคัญส่งเสริมการศึกษา..00 - MSK News

Breaking

Home Top Ad

วันพุธที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2565

นายกฯชมปตท. ดำเนินโครงการที่ดีเพื่อสังคมต่อเนื่อง ย้ำรัฐมุ่งสร้างความเท่าเทียมให้ความสำคัญส่งเสริมการศึกษา..00

นายกฯ ย้ำ รัฐบาลให้ความสำคัญส่งเสริมการศึกษา มุ่งมั่นสร้างความเท่าเทียม ชื่นชม ปตท. ดำเนินโครงการที่ดีเพื่อสังคมต่อเนื่อง มอบเงินจำนวน 151 ล้านบาท ช่วยเหลือเด็กและเยาวชนต่อยอดการศึกษา

เมื่อวันที่  8 มิ.ย.65 เวลา 15.00 น. ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นสักขีพยานพิธีมอบเงินสนับสนุนทุนการศึกษาโครงการ “ลมหายใจเพื่อน้อง” ระหว่าง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) โดย ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ ประธานกรรมการ ปตท. เป็นผู้แทนมอบเงินจำนวน 151 ล้านบาท ให้แก่ รศ. ดร. ดารณี อุทัยรัตนกิจ กรรมการบริหารกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เพื่อช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่มีความเสี่ยงจะหลุดออกจากระบบการศึกษาในปี 2565 และได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ให้ได้รับการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลในการสร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็กและเยาวชนของไทยโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไปต่อเนื่อง 

โดยมี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายอธิคม เติบศิริ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทาง ร่วมเป็นสักขีพยานในครั้งนี้ด้วย

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่านายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชม ปตท. ที่ได้ริเริ่มทำโครงการดี ๆ เพื่อสังคมมาโดยตลอด โครงการลมหายเพื่อน้องถือเป็นแบบอย่างที่ดีของภาคธุรกิจ ในการสนับสนุนและส่งเสริมการศึกษาแก่เยาวชน เนื่องจากการศึกษาเป็นรากฐานสำคัญที่นำพาประเทศไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน พร้อมได้กล่าวขอบคุณประชาชนทุกภาคส่วน ที่ทำให้โครงการเพื่อสังคมลักษณะเช่นนี้ ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว และเชื่อมั่นว่า ความร่วมมือของภาครัฐและเอกชน จะสามารถพัฒนาคุณภาพการศึกษาของประเทศไทยให้ดียิ่งขึ้น เพราะการศึกษาถือเป็นรากฐานที่สำคัญของประเทศ

นายกรัฐมนตรีย้ำ รัฐบาลให้ความสำคัญกับการส่งเสริมภาคการศึกษามาโดยตลอดและมุ่งมั่นสร้างความเท่าเทียมทางการศึกษาให้แก่เยาวชนไทยอย่างเป็นธรรม เนื่องจากการศึกษาเป็นรากฐานสำคัญที่จะยกระดับทรัพยากรมนุษย์ของประเทศให้มีศักยภาพสูง สามารถขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าต่อไปในภายภาคหน้าได้อย่างยั่งยืน โดยการจัดกิจกรรม Virtual Run ของบริษัท ปตท. สอดคล้องกับแนวนโยบายของรัฐบาลในการสนับสนุนภาคการศึกษาของประเทศ นับเป็นแบบอย่างที่ดี ในการดำเนินโครงการเพื่อสังคม ให้ประชาชนทั่วไปได้ตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษา ทำให้นักเรียนที่ประสบปัญหาสามารถกลับเข้าสู่ระบบการศึกษา และเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการศึกษาไทยและขับเคลื่อนประเทศไทยให้เป็น Better Thailand อย่ายั่งยืน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น