โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ ยินดี 10 เดือน ไทยส่งออกข้าวโต 33% มั่นใจปีนี้ได้ตามที่ตั้งเป้า 7.5 ล้านตัน สั่งการให้ควบคุมคุณภาพเพื่อคงชื่อเสียงข้าวไทยในตลาดโลก - MSK News

Breaking

Home Top Ad

วันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2565

โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ ยินดี 10 เดือน ไทยส่งออกข้าวโต 33% มั่นใจปีนี้ได้ตามที่ตั้งเป้า 7.5 ล้านตัน สั่งการให้ควบคุมคุณภาพเพื่อคงชื่อเสียงข้าวไทยในตลาดโลก

เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2565 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่ได้ทราบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า การส่งออกข้าวไทยช่วง 10 เดือนของปีนี้ (มกราคม – ตุลาคม 2565) มีปริมาณ เพิ่มขึ้น 33 % และมูลค่าเพิ่มขึ้น 32.4 % เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปี 2564 ในขณะที่การส่งออกเดือนตุลาคม 2565 เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน 2565 มีปริมาณและมูลค่า ส่งออกเพิ่มขึ้น 24.7 % และ 20.5 % ตามลำดับ รวมทั้ง มีการส่งออกข้าวขาวมากถึงกว่า 4 แสนตัน หรือคิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้น 44% ส่วนใหญ่ส่งไป อิรัก จีน ญี่ปุ่น แองโกล่า โมซัมบิก แคเมอรูน และมีการส่งออกข้าวนึ่งเพิ่มขึ้น 21% โดยเป็นการส่งไปตลาดหลักในแอฟริกา เช่น เบนิน แอฟริกาใต้ บังคลาเทศ เยเมน แคเมอรูน ไนเจอร์

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึง แนวโน้มสถานการณ์การส่งออกข้าวไทย ว่าที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าต่างประเทศ ได้หารือและเห็นชอบร่วมกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ให้ปรับเพิ่มเป้าหมายการส่งออกข้าวไทยปี 2565 จากเดิมที่กำหนดไว้ 7 ล้านตัน เป็น 7.5 ล้านตัน ซึ่งในตอนนี้ สมาคมฯ คาดว่าในเดือนพฤศจิกายน 2565 การส่งออกข้าวจะอยู่ที่ระดับประมาณ 750,000-800,000 ตัน เนื่องจากผู้ส่งออกยังคงมีสัญญาที่ค้างส่งมอบจากเดือนก่อน ประกอบกับตลาดที่สำคัญยังคงมีความต้องการนำเข้าข้าว เพื่อใช้ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ปีใหม่ และตรุษจีนในช่วงปลายเดือนมกราคม 2566

“นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นต่อการส่งออกข้าวไทย ทั้งมีคุณภาพ และมาตรฐานสูง และราคาของข้าวไทยอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถแข่งขันได้ เป็นที่ต้องการของตลาดโลก ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กำกับให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมกันส่งเสริมศักยภาพด้านการผลิต คุณภาพ การขนส่งเพื่อส่งออกของข้าวไทยอย่างเคร่งครัด เพื่อคงชื่อเสียงข้าวไทยในตลาดโลกให้ดีอยู่เสมอ” นายอนุชาฯ กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น