ผู้ว่าฯชัชชาติ ประชุมร่วมรัฐ-เอกชน-กทม. นัดแรกคืบ มุ่งดัน 3 เรื่องยกระดับเศรษฐกิจเมืองให้เห็นรูปธรรม - MSK News

Breaking

Home Top Ad

วันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2565

ผู้ว่าฯชัชชาติ ประชุมร่วมรัฐ-เอกชน-กทม. นัดแรกคืบ มุ่งดัน 3 เรื่องยกระดับเศรษฐกิจเมืองให้เห็นรูปธรรม

เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐเอกชน กรุงเทพมหานคร (กรอ.กทม.) ครั้งที่ 1/2565 โดยมีผู้แทนจากสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ร่วมประชุม ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร


ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า วันนี้เป็นครั้งแรกของการประชุมคณะกรรมการร่วมฯ ของกรุงเทพมหานคร ซึ่งทั้ง 3 องค์กรได้เสนอแนะ 9 เรื่อง ซึ่งกทม.ยินดีรับไปดำเนินการ โดยจะขับเคลื่อนผ่านคณะทำงานย่อยในแต่ละเรื่องเพื่อให้เกิดเป็นอย่างเป็นรูปธรรม เริ่มจาก 3 เรื่องแรกที่จะผลักดันก่อน คือ การท่องเที่ยว เรื่อง Health Wellness รวมทั้งเป็นศูนย์กลางของบริษัทข้ามชาติที่เข้ามาตั้งสำนักงานในกรุงเทพฯ โดยอาจจะมีตัวที่จะช่วยดึงหรือสร้างแรงจูงใจ กทม. อยากให้มีธุรกิจที่มีคุณภาพอยู่ในเมืองเพื่อที่จะได้สร้างงาน ทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียน ทำให้เมืองมีคุณภาพดีขึ้น

ทั้งนี้ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยได้เสนอเรื่องการปรับใบอนุญาตการก่อสร้างให้เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลาในการยื่นเอกสาร พร้อมทั้งพิจารณาขั้นตอน EIA ให้รวดเร็วกว่าเดิม ขอให้ทบทวนเรื่องราคากลางให้เหมาะสมกับสภาพความเป็นจริงในการจัดซื้อจัดจ้าง และยกระดับเรื่อง Street Food โดยสร้าง eco system ที่เหมาะสมเพื่อรองรับการท่องเที่ยวและเพื่อสุขภาพที่ดี

ด้านสภาอุตสาหกรรมเสนอเรื่องการบริหารจัดการขยะ ซึ่งขณะนี้ได้มีการร่วมมือกับ กทม. แล้ว ในการณรงค์เรื่องแยกขยะ รวมไปถึงโครงการพัฒนาคลองหัวลำโพงซึ่งได้มีการลงพื้นที่ร่วมกับ กทม. แล้ว และยังมีการทำเรื่องความปลอดภัยของร้านอาหาร มีการออกมาตรการร้านอาหารปลอดภัยแล้วให้ใบประกาศนียบัตรให้แก่ร้านที่ผ่านมาตรฐาน เพื่อสร้างมั่นใจให้ร้านอาหารและตลาดต่าง ๆ

ส่วนทางสมาคมธนาคารไทยได้พูดถึงการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อให้เกิด Digital Transformation ซึ่งเรื่องนี้ทางธนาคารต่าง ๆ ได้นำหน้าไปมากแล้ว หาก กทม.สามารถนำมาต่อยอดได้ เรื่องการจ่ายเงินค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น การทำให้เข้าถึงสินเชื่อต่าง ๆ ได้มากขึ้น รวมถึงการแก้ไขปัญหาหนี้สินซึ่งประชาชนในชุมชนจำนวนมากยังมีปัญหาเรื่องหนี้สิน ซึ่งกทม.จะมีข้อมูลชุมชนเรื่องชุมชนและเรื่องที่อยู่อาศัย ถ้าผนวกกับทางธนาคารมีข้อมูลเรื่องการเงิน ก็จะช่วยในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบในระดับรากหญ้าได้มากขึ้น และสนับสนุนให้ กทม.เป็นจุดนำร่องในการเชื่อมโยงการจ่ายเงินระหว่างพื้นที่ต่าง ๆ ในระดับภูมิภาค ซึ่งขณะนี้หลายประเทศได้มีการจ่ายเงินผ่านระบบต่าง ๆ ได้สะดวกแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น