กทม.เดินหน้า​ดำเนินการต่อต้านทุจริตและประพฤติมิชอบ​ในหน่วยงาน​ สร้างความไว้วางใจให้ประชาชนที่ร้องเรียน...G - MSK News

Breaking

Home Top Ad

วันจันทร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2566

กทม.เดินหน้า​ดำเนินการต่อต้านทุจริตและประพฤติมิชอบ​ในหน่วยงาน​ สร้างความไว้วางใจให้ประชาชนที่ร้องเรียน...G


เมื่อวันที่ 2 มี.ค.66​ เวลา​ 14.00 น.​ นายชัชชาติ​ สิทธิพันธุ์​ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร​ เป็นประธานการประชุม​ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านทุจริตกรุงเทพมหานคร(ศปท.กทม.)​ ครั้งที่​ 2/2566 โดยมีนายเฉลิมพล โชตินุชิต​ รองปลัดกรุงเทพมหานคร​ หัวหน้าสำนักงาน​ ก.ก.​ ผู้อำนวยการสำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล​ ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.)​ ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)​ และคณะกรรมการ​ ร่วมประชุม​ ณ​ ห้องเอราวัณ​ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร(เสาชิงช้า)​ เขตพระนคร

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร​ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีคนร้องเรียนและแจ้งปัญหาต่างๆเข้ามาสู่ระบบ​ Traffy Fondue กว่า 200,000 เรื่อง​ซึ่งก็มีเรื่องทุจริตด้วย​ คาดว่าในอนาคตประชาชนจะคุ้นชินกับระบบนี้​ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่กทม.จะได้ดำเนินการอย่างจริงจัง ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจของเจ้าหน้าที่ด้วยการประสานงานภายในหน่วยงานของกทม.เอง​ เพื่อให้การแก้ปัญหาข้อร้องเรียนของประชาชนเกิดประสิทธิภาพสูงสุด​ จากการมีส่วนร่วมของประชาชน​ ซึ่งจะนำมาซึ่งความไว้ใจจากประชาชน เนื่องจากกทม.สามารถแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียนได้

การประชุมในครั้งนี้ที่ประชุมได้มีการหารือ​ พิจารณาแนวทาง​ดำเนินการกับบุคคลที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมเพื่อป้องกันและต่อต้าน การทุจริตและประพฤติมิชอบของกรุงเทพมหานคร(กทม.)​ สำหรับผู้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชำนาญการลงมา และประเภททั่วไป ระดับอาวุโสลงมา​ ซึ่งบุคคลที่เข้าข่ายมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกรณีการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ มีเรื่องร้องเรียนกรณีทุจริต เรียกรับเงินหรือผลประโยชน์อื่นใดหรืออามิสสินจ้างต่าง ๆ การใช้ตำแหน่งหน้าที่ราชการเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่นที่ถูกร้องเรียนผ่านช่องทางต่างๆ​ อาทิ​ Traffy Fondue ทำเป็นหนังสือถึงหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร​ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการติดตามการต่อต้านการทุจริตของกรุงเทพมหานคร หัวหน้าสำนักงาน ก.ก.​ ร้องเรียนผ่านศูนย์รับแจ้งทุกข์ สำนักงานเลขานุการปลัดกรุงเทพมหานคร หรือสายด่วนกทม.1555
จะมีขั้นตอนการดำเนินการ​ ดังนี้​ 1. ​ส่งเรื่องให้สำนักงาน ก.ก. ตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น และให้นำเรื่องร้องเรียนที่มีข้อมูล หรือหลักฐานเบื้องต้นที่เชื่อได้ว่าอาจมีพฤติกรรมการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ (โดยปกปิดชื่อผู้ร้องเรียนไว้เป็นทางลับ) เสนอผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการติดตามการต่อต้านการทุจริตของกรุงเทพมหานคร และแต่งตั้งคณะอนุกรรมการสืบข้อเท็จจริงทางลับภายใน 30 วัน​ 2. หากมีมูลให้นำเรื่องดังกล่าวเสนอศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตกรุงเทพมหานคร(ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเป็นประธานกรรมการ) เพื่อพิจารณาสั่งการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
3. ระหว่างมีการสอบสวนให้ปลัดกรุงเทพมหานครย้ายบุคคลดังกล่าวไปช่วยราชการ หรือสั่งพักราชการตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนด



ที่ประชุมได้เห็นชอบหลักการการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ตลอดจนกำหนด เกณฑ์การรับเรื่องร้องเรียนทุจริต และการส่งต่อเรื่องร้องเรียนทุจริต​ โดยจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตกรุงเทพมหานคร​ โดยมีผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นหัวหน้าศูนย์ฯ มีอำนาจหน้าที่กำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ด้านการต่อต้านทุจริตและประพฤติมิชอบ การป้องกันการทุจริตเชิงรุกด้วย การลงพื้นที่หรือมอบหมายให้ผู้เกี่ยวข้องลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบพื้นที่เสี่ยงต่อการทุจริต เพื่อลดความเสี่ยงหรือโอกาสที่จะเกิดการทุจริตในหน่วยงานของกรุงเทพมหานคร และจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการ ติดตามการต่อต้านการทุจริตของกรุงเทพมหานคร(ศตท.กทม.) มีรองปลัดกรุงเทพมหานครสั่งราชการสำนักงาน ก.ก.เป็นผู้อำนวยการศูนย์ มีหน้าที่ผลักดันนโยบายไปสู่การปฏิบัติ​ ด้วยการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนที่มีการร้องเรียนตามช่องทางต่าง ๆ เพื่อสอบสวนขยายผล​ ตรวจสอบเชิงรุก เรื่องที่เป็นความเสี่ยงและอาจเอื้อให้มีการทุจริต เช่น การ จัดซื้อจัดจ้างในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร หาบเร่แผงลอย การอนุญาตก่อสร้างอาคาร และการขออนุญาตของผู้ประกอบการ เป็นต้น​ โดยแจ้งผู้อำนวยการเขตทุกเขตให้กำชับหน่วยงานและสถานศึกษาในพื้นที่ทราบถึงการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติงานของ ศตท.กทม. และเตรียมความพร้อมของข้อมูล/เอกสาร สำหรับการลงพื้นที่ตรวจสอบของคณะผู้บริหาร หากพบเห็นพฤติกรรมการทุจริตหรือการเรียกรับสินบนให้แจ้ง เบาะแสทันที พร้อมเน้นย้ำว่า ทุกหน่วยงานต้องให้ความสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่อย่างโปร่งใสตามนโยบาย ของผู้บริหารกรุงเทพมหานคร​ ทั้งนี้ได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติงานของศูนย์ปฏิบัติการ ติดตามการต่อต้านการทุจริตของกรุงเทพมหานคร (ศตท.กทม.) จำนวน 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการจัดซื้อจัดจ้างของโรงเรียนและภารกิจอื่นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ด้านงานโยธา และด้านงานเทศกิจ





นอกจากนี้​ ที่ประชุมได้แจ้งผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงาน ภาครัฐ (ITA) ของสำนักงานเขต ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566​ โดยขณะนี้ได้เก็บข้อมูลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายใน (IIT) มีสำนักงานเขตที่ดำเนินการครบแล้วจำนวน 22 สำนักงานเขต (คิดเป็นร้อยละ 44) สำนักงานเขตยังดำเนินการไม่ครบจำนวน 28 สำนักงานเขต (คิดเป็นร้อยละ 56) ในส่วนของการเก็บข้อมูลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอก (EIT) มีสำนักงานเขตที่ดำเนินการครบแล้ว จำนวน 12 สำนักงานเขต (คิดเป็นร้อยละ 24) สำนักงานเขตยังดำเนินการไม่ครบจำนวน 38 สำนักงาน เขต (คิดเป็นร้อยละ 76) รวมถึงสถิติการรับเรื่องร้องเรียนและการดำเนินงานของศูนย์ปฏิบัติการติดตามการต่อต้านการทุจริตของกรุงเทพมหานคร(ศตท.กทม.)ได้รับเรื่องร้องเรียนตาม ช่องทางการรับเรื่องร้องเรียนทุจริต ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2566 พบว่ามีทั้งสิ้น​ 23 เรื่อง​ ซึ่งร้องเรียนผ่าน​ Traffy Fondue 15 เรื่อง​ (โยธา​ 2 เรื่อง, เทศกิจ​ 4 เรื่อง, สิ่งแวดล้อม​ 1 เรื่อง, อื่นๆ​ 8 เรื่อง)​ และร้องเรียนผ่าน​ผู้บริหารกทม.​8 เรื่อง​ ได้ดำเนินการเสร็จสิ้น 4 เรื่อง ส่งต่อให้หน่วยงานดำเนินการ 5 เรื่อง​ ส่งให้คณะทํางานดำเนินการ 11 เรื่อง ส่งเรื่องให้สํานักงานป.ป.ช. 2 เรื่อง ส่งเรื่องให้สํานักงาน ป.ป.ท. 1 เรื่อง

#บริหารจัดการดี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น