ส่วนสถานการณ์โรคโควิด-19 ทั่วโลก แนวโน้มพบผู้ป่วย ผู้เสียชีวิต คงตัว ทั้งในประเทศแถบเอเชีย ยุโรป และสหรัฐ ขณะที่ประเทศจีนมีรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นในหลายเมือง สถานการณ์โรคโควิด-19 ประเทศไทย มีแนวโน้มพบผู้ป่วย ผู้ป่วยอาการหนัก และผู้เสียชีวิตลดลงต่อเนื่อง มีการคาดการณ์ว่าจะมีผู้เดินทางจากต่างประเทศ เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้นมาตรการป้องกันการป่วยรุนแรง ด้วยวัคซีนเข็มกระตุ้นสำหรับกลุ่ม 608 และลดการแพร่โรคด้วยมาตรการป้องกันส่วนบุคคล และการฉีดวัคซีนในกลุ่มผู้ให้บริการภาคการท่องเที่ยว และคมนาคม รวมทั้งเน้นเฝ้าระวังโรคในสถานพยาบาล สถานที่เสี่ยงแหล่งท่องเที่ยว ท่าอากาศยาน อย่างต่อเนื่อง เน้นการสื่อสาร แนะนำแนวปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค สำหรับกลุ่มผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ โดยประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งนี้ ให้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการส่วนบุคคลอย่างเข้มงวด อาทิ เว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่แออัด อากาศไม่ถ่ายเท ล้างมือบ่อย ๆ ตรวจหาเชื้อโควิด-19 หากมีอาการทางเดินหายใจ เน้นให้ประชาชนฉีดวัคซีนโควิด 19 ให้ครบ 4 เข็ม และฉีดเข็มกระตุ้นเมื่อฉีดเข็มสุดท้ายมากกว่า 4 เดือน เนื่องจากผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ที่พบส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ไม่เคยรับการฉีดวัคซีน หรือฉีดวัคซีนยังไม่ครบ 4 เข็ม พร้อมทั้งเน้นย้ำให้สถานประกอบการ ร้านอาหาร สนามมวย สนามกีฬา ตลาด วัด และสถานที่ต่าง ๆ ที่นักท่องเที่ยวนิยมไป ให้ปฏิบัติตามมาตรการ covid free setting ส่วนโรงแรม ร้านอาหารต่าง ๆ ปฏิบัติตามมาตรฐาน SHA และ SHA plus
2 ก.พ. หารือ อปท. รอยต่อสานความร่วมมือป้องกันพิษสุนัขบ้า
ส่วนกรณีตรวจพบสุนัขเสียชีวิตด้วยโรคพิษสุนัขบ้า และปศุสัตว์กรุงเทพได้ประกาศให้แขวงทับยาวเป็นเขตโรคระบาดชั่วคราว ตั้งแต่ 16 ม.ค.–16 ก.พ. 66 โดยเบื้องต้นหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักอนามัย โดย สำนักงานสัตวแพทย์สาธารณสุข กองควบคุมโรคติดต่อ ศูนย์บริการสาธารณสุข 46 กันตารัติอุทิศ สำนักงานปศุสัตว์พื้นที่ 3 (ลาดกระบัง-สะพานสูง) ปศุสัตว์กรุงเทพ ร่วมกันลงพื้นที่สอบสวนโรค และดำเนินการควบคุมโรคพิศสุนัขบ้านในพื้นที่ดังกล่าว มีการสอบสวนเพื่อวางแผนในการควบคุมและกักบริเวณสัตว์ในพื้นที่เสี่ยงเพื่อสังเกตอาการภายใน 6 เดือน รวมถึงค้นหาผู้สัมผัสโรคและกลุ่มเสี่ยงในชุมชนเพื่อพิจารณาให้วัคซีนและอิมมูโนกลอบูลิน พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ชุมชนและพื้นที่รอยต่อเพิ่มความตระหนักในการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า โดยให้ผู้มีประวัติถูกสัตว์กัดข่วนไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าที่ศูนย์บริการสาธารณสุข 46 กันตารัติอุทิศ หรือสถานพยาบาลที่ความสะดวก พร้อมทั้งให้คำแนะนำเจ้าของสุนัขในการพาสุนัขไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าที่ศูนย์บริการสาธารณสุข 46 กันตารัติอุทิศ
นอกจากนี้ เพื่อให้การป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ที่ประชุมจึงกำหนดให้มีการประสานหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ ปศุสัตว์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยที่เกี่ยวข้องในพื้นที่กรุงเทพฯ และจังหวัดรอยต่อ ประชุมร่วมกันเพื่อบูรณาการความร่วมมือพร้อมทั้งจัดทำแผนในการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่เกิดเหตุและพื้นที่ใกล้เคียงรัศมี 5 กิโลเมตร เบื้องต้นกำหนดประชุมในวันที่ 2 ก.พ. 66 เวลา 14.00 น. ณ สำนักงานเขตลาดกระบัง
สำหรับการประชุมวันนี้มีขึ้นที่ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร และระบบการประชุมทางไกล (ออนไลน์) มี ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร หน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานครและหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม อาทิ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขตสุขภาพที่ 13 ผู้อำนวยการสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาสุขภาวะเขตเมือง กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ผู้อำนวยการสำนักนิเทศระบบการแพทย์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ผู้อำนวยการกองสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการ สุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ผู้อำนวยการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สาขาพื้นที่ (กรุงเทพมหานคร)ผู้แทนกระทรวงกลาโหม ประธานคณะกรรมการโรงพยาบาลในกลุ่มสถาบันแพทย์ศาสตร์แห่งประเทศไทย (UHosNet) สำนักอนามัย ประธาน 6 กลุ่มเขต สำนักงานประชาสัมพันธ์ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร ผู้แทนภาคประชาสังคม สำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล เข้าร่วมประชุม
(พัทธนันท์…สปส. รายงาน)











%20(%E0%B8%9E%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%B8%E0%B9%8B%E0%B8%A2)%20%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%93%E0%B8%B7%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C.jpeg)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น