ศาสตราจารย์ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า THE Asia Universities Summit ภายใต้งาน Facing the future, creating academic talent ถือเป็นการส่งเสริมด้านอุดมศึกษา พร้อมเชื่อมต่อผลงานด้านอุดมศึกษาไทยในระดับเอเชีย โดยการประชุมได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์องค์ความรู้ในการพัฒนาจากกลุ่มภาคการศึกษามหาวิทยาลัยในทวีปเอเชีย อีกทั้งสถาบันอุดมศึกษาไทยได้ร่วมแสดงความคิดเห็นถึงปัญหาร่วมกันในสถาบันอุดมศึกษาในเอเชีย ในเรื่องของจำนวนประชากรลดลง การปรับเปลี่ยนจากจัดการเรียนการสอนแบบเดิม ๆ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากในยุคปัจจุบัน โดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวมีแผนงานที่ชัดเจนตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ซึ่งการเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ได้ถอดบทเรียนในเรื่องของความสำเร็จของการจัดการของสถาบันอุดมศึกษาจากประเทศต่าง เพื่อเกิดการสนับสนุนนโยบายที่กระทรวงฯ ดำเนินการอยู่ได้เป็นอย่างดี เช่น แนวคิดในการร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรม แนวคิดในการขับเคลื่อนและสนับสนุนด้านวิทยาศาสตร์พื้นฐาน (Basic Sciences) รูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิธีต่างๆ ที่หลากหลาย โดยเน้นออนไลน์เพื่อก่อให้เกิดประสิทธิผลสูงสุดแก่ผู้เรียน การร่วมมือการดำเนินการในด้านต่างๆ ที่มุ่งเน้นการพัฒนาโดยการใช้ความร่วมมือระหว่างประเทศ
นายพันธุ์เพิ่มศักดิ์ อารุณี หัวหน้ากลุ่มภารกิจบริหารยุทธศาสตร์ สป.อว. กล่าวเพิ่มเติมว่า การประชุมครั้งนี้ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ยังได้เผยถึงโครงการพลิกโฉมมหาวิทยาลัย (Reinventing University) ได้นำมาปรับในการพัฒนาในประเทศ โดยให้พลิกโฉมมหาวิทยาลัยผลักดันให้มหาวิทยาลัยไทยมีการดำเนินการที่มุ่งเป้า ดึงศักยภาพของมหาวิทยาลัยออกมาให้ได้มากที่สุด ไม่หลงทางวางความถนัดของกลุ่มมหาวิทยาลัยไทยที่ชัดเจน โดยการดำเนินการด้านการพลิกโฉมมหาวิทยาลัยเป็นการตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ประเทศที่ทำให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง (middle income trap) และยกระดับการมีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยใช้องค์ความรู้จากทางมหาวิทยาลัย
“ในการประชุม อว. ยังได้นำเสนอมุมมอง แผนการพัฒนาด้านอุดมศึกษาในไทย โดยตัวแทนประเทศไทยได้มีการนำเสนอแนวคิดผ่านการสัมมนาในเรื่องการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ ในกรณีศึกษาของมหาวิทยาลัยมหิดลได้ดำเนินการปรับการเรียนการสอนในด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพและด้านการแพทย์มาก่อนการระบาดของโรค COVID-19 คำนึงถึงความเปลี่ยนแปลงของโลกในด้านต่าง ๆ อาทิ การพัฒนาในเรื่องระบบไอที องค์ความรู้ด้านดิจิตอล ความรู้ทางด้านการแพทย์ที่ทันสมัย ทำให้มหาวิทยาลัยปรับเปลี่ยนอย่างรอบด้าน อาทิ การติดตั้งระบบไวไฟทุกวิทยาเขต พัฒนาเซิฟเวอร์ให้ทันสมัยมีบทเรียนแบบออนไลน์ มีการสร้างบุคคลากรให้มีความรู้ทำให้ในช่วงโรคระบาด COVID-19 การจัดการเรียนการสอนจึงไม่กระทบมาก แม้ว่าการมีระบบ IT ที่ดีจะเป็นเทรนด์ของอนาคต แต่การเรียนการสอนแบบซึ่งหน้า (face to face) ก็เป็นสิ่งสำคัญช่วยการเรียนรู้ความเป็นมนุษย์ ปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ และก่อให้เกิดการสร้างเครือข่ายที่เป็นรูปธรรมมากกว่าโลกออนไลน์ นอกจากนี้ทาง สป.อว. ยังได้ทาบทามทาง THE ให้มาจัดการประชุม Master class ในประเทศไทยในเวลาอันใกล้นี้ต่อไป” นายพันธุ์เพิ่มศักดิ์ กล่าวสรุป








%20(%E0%B8%9E%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%B8%E0%B9%8B%E0%B8%A2)%20%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%93%E0%B8%B7%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C.jpeg)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น