"ดร.วันดี" นำทีมที่ปรึกษา-อุปนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย หารือเตรียมการจัดพิธีมอบลายผ้าพระราชทาน “ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา” และการประชุมกก.สมาคมฯครั้งที่1/2565 - MSK News

Breaking

Home Top Ad

วันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

"ดร.วันดี" นำทีมที่ปรึกษา-อุปนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย หารือเตรียมการจัดพิธีมอบลายผ้าพระราชทาน “ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา” และการประชุมกก.สมาคมฯครั้งที่1/2565


ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เป็นประธานการประชุมหารือเพื่อเตรียมการจัดพิธีมอบลายผ้าพระราชทาน “ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา” และเตรียมการจัดประชุมคณะกรรมการสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ครั้งที่ 1/2565 โดยมี นางรชตภร โตดิลกเวชช์ ที่ปรึกษาสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นางกุลทรัพย์ ชื่นโกสุม นางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ นางกุสุมาล พงษ์สิทธิถาวร นางอุษณี จงจิระ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศศิธร จันทมฤก อุปนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นางสุภา สุนันทพงศ์ศักดิ์ กรรมการบริหารสมาคมแม่บ้านมหาดไทย การประปาส่วนภูมิภาค นางนิศากร วิศิษฏ์สรอรรถ รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ พร้อมด้วยคณะกรรมการสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ร่วมประชุม เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 65 เวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุมดำรงธรรม อาคารศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย 

ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เปิดเผยว่า ในคราวเสด็จกลุ่มทอผ้าไหมกลุ่มแรกของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่บ้านนาหว้า อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2565 นับเป็นพระมหากรุณาที่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ได้พระราชทานแบบลายผ้า “ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา” ผ่านนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และตน เพื่อมอบให้กับช่างทอผ้าทุกกลุ่ม ทุกเทคนิค นำไปใช้ทอผ้าผลิตผ้าตามอัตลักษณ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นทั่วประเทศ ซึ่ง “ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา” พระองค์ทรงได้รับแรงบันดาลพระทัยจาก “ผ้าขิดลายสมเด็จ” ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้พระราชทานแก่ราษฎร อันเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาผ้าไทยให้มีความร่วมสมัย โดยในลวดลายผ้าแต่ละลวดลายแฝงไปด้วยความหมายที่มีความลึกซึ้ง ได้แก่ “ลาย S ที่ท้องผ้า” หมายถึง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงเป็นต้นแบบในการอนุรักษ์ภูมิปัญญาผ้าไทย โดยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ได้ทรงออกแบบให้เว้นช่องว่างไว้ เพื่อให้ราษฎรได้ร่วมถักทอลวดลายของตนเองลงในช่องว่าง เป็นการสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากแต่ละท้องถิ่น ต่อมา “ลายบิดที่เป็นกรอบล้อมรอบตัว S” หมายถึง ความจงรักภักดีที่ปวงชนชาวไทยมีต่อพระบรมราชจักรีวงศ์ “ลายเชิงผ้ารูปหัวใจ” หมายถึง ความรักของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย “ลาย S ประกอบกับลายขิดที่เชิงผ้า” หมายถึง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ทรงปรารถนาให้คนไทยอยู่ดีมีสุข “ลายต้นสนที่เชิงผ้า” หมายถึง พระดำริในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในการฟื้นฟูประวัติศาสตร์ของโครงการศิลปาชีพฯ ซึ่งลายต้นสนนี้ เป็นลวดลายพื้นถิ่นที่ถักทออยู่บนผืนผ้าของบ้านนาหว้า จังหวัดนครพนม ที่เป็นจุดกำเนิดโครงการศิลปาชีพฯ และ “ลายหางนกยูงที่เชิงผ้า” หมายถึง ความตั้งพระทัยมั่นของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในการสืบสาน รักษาและต่อยอด พระราชกรณียกิจของสมเด็จย่าของพระองค์ ในการฟื้นคืนภูมิปัญญาผ้าไทยให้ดำรงคงอยู่คู่แผ่นดิน

ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย กล่าวว่า เพื่อเป็นการสนองพระมหากรุณาที่พระองค์ท่านได้พระราชทานแบบลายผ้า “ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา” ให้กับช่างทอผ้าทุกกลุ่ม ทุกเทคนิค ทั่วประเทศ สมาคมแม่บ้านมหาดไทยจึงได้ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กำหนดจัดพิธีมอบลายผ้าพระราชทาน “ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา” ให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดและประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดทั่วประเทศ ในช่วงเช้าของวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2565 เพื่อเชิญแบบลายผ้า “ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา” มอบให้กับช่างทอผ้าทุกกลุ่ม ทุกเทคนิค นำไปใช้ทอผ้า ผลิตผ้าตามอัตลักษณ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นทั่วประเทศ และจะมีการเสวนาขับเคลื่อนโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก ประจำปี 2565 โดยผู้ทรงคุณวุฒิด้านผ้าไทย จากนั้นในช่วงบ่าย จะเป็นการประชุมคณะกรรมการสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ครั้งที่ 1/2565 และระดมสมอง (Workshop) แนวทางการขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมการใช้ผ้าไทยเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2565 ครอบคลุมการส่งเสริมการใช้ผ้าไทย ทั้งมิติการผลิต การตลาด และการจำหน่าย ให้กับช่างทอผ้าในทุกพื้นที่ ทุกท้องถิ่นของประเทศไทย โดยในการจัดงานฯ ได้กำหนดให้ทุกคนต้องผ่านการตรวจหาเชื้อด้วยชุดตรวจ ATK ก่อนเข้าพื้นที่บริเวณงาน และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ทั้งการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย การล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ การสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และการจัดสถานที่แบบเว้นระยะห่างทางสังคม

“ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีผ้ามากที่สุดในโลก เช่น ผ้าไหม ผ้าฝ้าย ผ้าทอ ผ้าตีนจก ผ้าหม้อห้อม ฯลฯ ซึ่งถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรม เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ เป็นศิลปะที่มีความวิจิตรสวยงาม เป็นวิถีชีวิตของคนไทย และนับเป็นความโชคดีของพวกเราพสกนิกรชาวไทยทุกคน ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงส่งเสริมให้พี่น้องคนไทยรวมกลุ่มกันเป็นกลุ่มศิลปาชีพ โดยนำเอาภูมิปัญญาฝีไม้ลายมือที่บรรพบุรุษถ่ายทอด ผลิตเป็นงานหัตถศิลป์ หัตถกรรมมากมาย และมี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชปณิธานในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการส่งเสริมทักษะและต่อยอดแนวคิดในการพัฒนาลวดลายผ้าให้แก่สมาชิกกลุ่มทอผ้าทุกกลุ่ม ทุกเทคนิค ทั่วประเทศ และทรงเน้นย้ำถึงการใช้สีธรรมชาติในการย้อมผ้าเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย นอกจากนี้ ยังทรงเป็นแบบอย่างให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการออกแบบเสื้อผ้าไทยให้ทันสมัย สามารถสวมใส่ได้ทุกเพศ ทุกวัย ทุกโอกาส อันเป็นการอนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญาของคนไทย ก่อให้เกิดรายได้สู่ชุมชนเศรษฐกิจฐานราก เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนผู้ประกอบการผ้าไทยให้มีรายได้ไปจุนเจือครอบครัว เงินทองของพวกเราที่ซื้อผ้าไทย ตามกำลังตามความสามารถ ก็จะหมุนเวียนสร้างรายได้ให้กับพวกเราคนไทยด้วยกันอย่างยั่งยืน” ดร.วันดีฯ กล่าวเน้นย้ำ

ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 สมาคมแม่บ้านมหาดไทย น้อมนำพระราชปณิธานในการขับเคลื่อนภารกิจของสมาคมแม่บ้านมหาดไทยผ่าน “โครงการส่งเสริมการใช้ผ้าไทย เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565” ตลอดทั้งปี รวมทั้งขับเคลื่อนภารกิจ 5 ด้าน ได้แก่ 1) โครงการเสริมสร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร น้อมนำแนวพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” โดยการปลูกผักสวนครัวในทุกครัวเรือน 2) โครงการสวมใส่ผ้าไทย น้อมนำแนวพระราชดำริ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตราชกัญญา “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ 3) ส่งเสริมให้พี่น้องประชาชนได้เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด – 19 อย่างทั่วถึง ตามเป้าหมายไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ 4) โครงการ “ครอบครัวมหาดไทย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” โดยการจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อนเพื่อการคัดแยกขยะแห้ง ขยะเปียกเพื่อให้เป็นปุ๋ยอินทรีย์ 5) ส่งเสริมการสร้างสุขอนามัยให้แก่เด็กและแม่ เติบโตอย่างถูกต้องตามเกณฑ์มาตรฐานสุขลักษณะ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” พี่น้องประชาชนคนไทยทั่วประเทศ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีสภาพเศรษฐกิจฐานราก เศรษฐกิจครัวเรือนที่มั่นคง ใช้ชีวิตมีความสุขอย่างยั่งยืน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น