นายกฯขอบคุณทุกฝ่ายที่ทำให้สถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น - MSK News

Breaking

Home Top Ad

วันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

นายกฯขอบคุณทุกฝ่ายที่ทำให้สถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น


นายกฯ ขอบคุณทุกฝ่ายที่ทำให้สถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น โดย ศบค. ปรับลดพื้นที่สีของจังหวัด และผ่อนคลายสถานที่ท่องเที่ยว ผับ บาร์ เริ่ม 1 มิ.ย.นี้

เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2565 เวลา 12.50 น. ณ บริเวณทางเชื่อมตึกสันติไมตรีและตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 8/2565 ว่า รู้สึกยินดีกับสถานการณ์การติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และอัตราผู้เสียชีวิตนั้นลดลง เป็นผลมาจากความร่วมมือกันของทุกฝ่าย รวมถึงประชาชน ขอบคุณทุกคนที่ปฏิบัติตามมาตรการของทางสาธารณสุข พร้อมขอให้ผู้ที่ยังมีความหละหลวมไม่ปฏิบัติตามมาตรการได้ให้ความร่วมมือกับทางภาครัฐด้วย โดยเฉพาะในเรื่องของการฉีดวัคซีน ซึ่งยืนยันขณะนี้มีวัคซีนที่เพียงพอ สำหรับการฉีดวัคซีนเข็มแรก และการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้กับประชาชนทุกคน รวมถึงเตียงสำหรับการรักษา สิ่งเหล่านี้เป็นมาตรการที่รัฐบาลดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการการปรับระดับพื้นที่สีของจังหวัดว่า ที่ประชุม ศบค. ได้ปรับลดพื้นที่สีในการควบคุมโรคโควิด-19 เหลือพื้นที่สีเขียว สีฟ้า และสีเหลือง รวมทั้งผ่อนคลายมาตรการให้เปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ ในพื้นที่สีฟ้า และพื้นที่สีเขียว ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2565 ภายใต้มาตรการด้านสาธารณสุข อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการผ่อนคลายที่จะให้เปิดแล้ว แต่ก็ขอให้ทุกคนต้องปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ทั้งผู้ให้บริการ และผู้ใช้บริการ รวมไปถึงที่ประชุม ศบค. ยังมีการปรับมาตรการการเข้าประเทศให้มีความรวดเร็วขึ้น ให้สอดคล้องกับสถานการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศ โดยเฉพาะทางอากาศ ขณะที่ในส่วนของทางเรือ ทางบกก็มีมาตรการอยู่แล้ว

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังติดตามการเปิดเรียนแบบ On-site ได้รับรายงานว่าทุกอย่างยังอยู่ในเกณฑ์ที่ควบคุมได้ ทั้งนี้ทุกอย่างที่รัฐบาลออกมาตรการไปรู้ว่าประชาชนเดือดร้อน ไม่สบายใจ เพราะทุกคนล้วนได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นทำให้เกิดความลำบากในการประกอบอาชีพ ซึ่งรัฐบาลพยายามทำอย่างเต็มที่ด้วยความระมัดระวัง ขอให้เข้าใจรัฐบาลด้วย พร้อมกล่าวย้ำว่าวันนี้ประเทศไทยถูกจัดอันดับเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก และเป็นอันดับ 1 ของอาเซียน ในเรื่องของการดูแลการแพร่ระบาดโควิด-19 และหลายอย่างที่ประเทศไทยดำเนินการนั้น WHO ก็ได้นำไปศึกษาด้วย

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการท่องเที่ยวของไทยว่าได้รับคำชื่นชมและเป็นที่นิยมจากต่างประเทศ โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร ภูเก็ต เชียงใหม่ เป็นต้น จึงขอให้ทุกคนร่วมมือกันฉีดวัคซีนให้ครบ สถานการณ์โควิด-19 ก็จะดีขึ้น เพราะเครื่องจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยคือ การท่องเที่ยว ทั้งนี้ ได้คาดการณ์ไว้ว่านักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่งผลให้สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามในส่วนของเครื่องจักรอื่น ๆ ยังขับเคลื่อนได้ช้า เพราะประสบปัญหา 3 ซ้อน 1) การกีดกันทางการค้า 2) โควิด-19 3) สถานการณ์ความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน โดยรัฐบาลจะทำให้ดีที่สุดบนพื้นฐานของความถูกต้องและการประชุมหารือร่วมกันของทุกฝ่ายก่อนดำเนินการต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น