“อนุทิน” ให้กำลังใจทีมแพทย์ดูแลผู้แสวงบุญ แนะผู้จะไปพิธีฮัจย์ ควรได้รับวัคซีน 4 เข็ม

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้กำลังใจทีมบุคลากรทางการแพทย์ที่จะไปดูแลชาวไทยมุสลิมร่วมพิธีฮัจย์ ณ นครเมกกะห์ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย แนะควรได้รับวัคซีนครบ 4 เข็ม จะช่วยลดการป่วยรุนแรงและลดการเสียชีวิตได้ ยืนยันวัคซีนฉีดได้ปลอดภัยไม่ผิดหลักศาสนา

ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2565 ที่ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มอบโนบายพร้อมให้กำลังใจทีมแพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่เข้ารับการปฐมนิเทศเพื่อเตรียมพร้อมก่อนร่วมเดินทางดูแลสุขภาพชาวไทยมุสลิมที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ณ นครเมกกะห์ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย นำทีมโดย นายแพทย์ซุลกิฟลี ยูโซะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลไม้แก่น จ.ปัตตานี เป็นหัวหน้าคณะ

นายอนุทินกล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขพร้อมให้การสนับสนุนทีมบุคลากรทางการแพทย์ที่ไปดูแลสุขภาพชาวไทยมุสลิมที่จะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ทั้งเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ป้องกัน และเนื่องจากขณะนี้ยังมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 อยู่ นอกจากดูแลสุขภาพของผู้แสวงบุญแล้ว ขอให้ทีมบุคลากรทางการแพทย์ดูแลสุขภาพของตนเองด้วย โดยทั้งเจ้าหน้าที่ และผู้ที่จะเดินทางไปแสวงบุญ 3,738 คน ควรได้รับวัคซีนเข็ม 4 และหากใครได้รับเข็ม 4 แล้วให้ปรึกษาแพทย์เพื่อรับวัคซีนเข็ม 5 ซึ่งจะช่วยลดการป่วยรุนแรงและลดการเสียชีวิตได้ ทั้งนี้ ขอให้สร้างความมั่นใจ ให้กับประชาชนว่าวัคซีนที่นำมาฉีดผ่านกระบวนการทดสอบทั้งจากบริษัทผู้ผลิต อย.ประเทศผู้ผลิต รวมถึงสถาบันทางการแพทย์ เมื่อถึงประเทศไทยยังต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบของ อย.ประเทศไทยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค รวมถึงไม่มีส่วนประกอบใดที่ผิดหลักศาสนา จึงสามารถฉีดได้และมีความปลอดภัย
“ขณะนี้ประเทศไทยมีการรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ขอให้ทีมแพทย์ที่ไปดูแลผู้แสวงบุญได้ทำหน้าที่ตัวแทนประเทศไทย ชักชวนให้ชาวซาอุดีอาระเบีย เดินทางมาเที่ยวประเทศไทยโดยเฉพาะจังหวัดในภาคใต้ที่เป็นจังหวัดนำร่องท่องเที่ยว เป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีให้ประเทศไทยกลับมายืนหนึ่งได้อีกครั้ง” นายอนุทินกล่าว