แอมเนสตี้แถลงหลังศาลเมียนมาสั่งลงโทษจำคุกอองซานซูจีเป็นเวลา 4 ปี - MSK News

Breaking

Home Top Ad

วันอังคารที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2564

แอมเนสตี้แถลงหลังศาลเมียนมาสั่งลงโทษจำคุกอองซานซูจีเป็นเวลา 4 ปี


สืบเนื่องจากการที่ศาลสั่งลงโทษจำคุกอองซานซูจีเป็นเวลาสี่ปี มิงยู ฮาห์ รองผู้อำนวยการสำนักงานภูมิภาคฝ่ายรณรงค์ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลกล่าวดังนี้


“บทลงโทษที่รุนแรงต่ออองซานซูจีตามข้อหาที่กุขึ้นมา เป็นตัวอย่างล่าสุดของเจตจำนงของกองทัพที่จะขจัดการต่อต้านใด ๆ และปราบปรามเสรีภาพในเมียนมา การตัดสินของศาลผ่านกระบวนการที่ขาดความน่าเชื่อถือและทุจริต เป็นส่วนหนึ่งของแบบแผนที่เลวร้ายของการลงโทษโดยพลการ ซึ่งที่ผ่านมาทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 1,300 คน และถูกจับกุมหลายพันคน นับแต่การทำรัฐประหารเมื่อเดือนกุมภาพันธ์  

“ยังคงมีผู้ถูกควบคุมตัวจำนวนมากซึ่งไม่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางแบบอองซานซูจี มีความเสี่ยงอย่างมากว่าพวกเขาจะถูกคุมขังเป็นเวลาหลายปี จากการใช้สิทธิมนุษยชนของตนอย่างสงบ เราต้องไม่ลืมพวกเขาและไม่ปล่อยให้พวกเขาประสบชะตากรรมเช่นนั้

“ในขณะที่ความรุนแรงเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีผู้พลัดถิ่นฐานหลายพันคน และทำให้เกิดวิกฤตด้านมนุษยธรรมท่ามกลางการระบาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง สถานการณ์ในเมียนมาทุกวันนี้จึงเป็นเรื่องน่าตกใจอย่างยิ่ง หากนานาชาติไม่หาทางแก้ไขอย่างเด็ดขาด เป็นเอกภาพ และรวดเร็ว สถานการณ์เช่นนี้สามารถและอาจจะเลวร้ายมากขึ้น  

“ประชาคมระหว่างประเทศต้องเพิ่มการดำเนินงานเพื่อคุ้มครองพลเรือน และกดดันให้นำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษจากการละเมิดอย่างรุนแรง และประกันให้มีการดำเนินงานช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและสุขภาพ โดยถือเป็นความเร่งด่วนสูงสุด ระบบสาธารณสุขของประเทศกำลังล่มสลาย เศรษฐกิจใกล้พังทะลาย ในขณะที่การขาดแคลนอาหารกำลังเริ่มขึ้น โลกไม่สามารถนั่งเฉยและปล่อยให้เป็นการตัดสินใจของอาเซียน รัฐต่าง ๆ ต้องดำเนินการทันที เพื่อประกันให้การยุติการสังหารโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย การควบคุมตัวโดยพลการ การทรมาน และการละเมิดที่โหดร้ายอย่างอื่น และให้ยุติแบบแผนการลอยนวลพ้นผิดที่เกิดขึ้นมาหลายทศวรรษ และเป็นเหตุให้เกิดสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน  

“เป็นเรื่องน่าละอายที่อาเซียนยังไม่ได้ดำเนินการอย่างเต็มที่ตามฉันทามติฉุกเฉินของตน หลังมีการบรรลุข้อตกลงดังกล่าวกว่าครึ่งปีที่แล้ว นอกจากการห้ามไม่ให้นายทหารระดับสูงอย่างมินอ่องหล่ายเข้าร่วมการประชุมเพียงไม่กี่ครั้ง อาเซียนยังคงแสดงท่าทีอ่อนแออย่างน่าตกใจ ในขณะที่กองทัพเมียนมาก็ยังปราบปรามผู้แสดงความเห็นต่างอย่างสงบ เร่งการทำลายล้าง และกวาดล้างเสรีภาพในการแสดงออก”

อ่านข่าวฉบับเต็มได้ที่นี่ https://www.amnesty.or.th/latest/news/myanmar061221/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น