ประกันภัยไทยวิวัฒน์ ชูธีมรักษ์โลก ผ่านยูนิฟอร์มใหม่ ภายใต้โปรเจกต์ Greenovation” เปลี่ยนโลกด้วยนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน - MSK News

Breaking

Home Top Ad

วันเสาร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2567

ประกันภัยไทยวิวัฒน์ ชูธีมรักษ์โลก ผ่านยูนิฟอร์มใหม่ ภายใต้โปรเจกต์ Greenovation” เปลี่ยนโลกด้วยนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน


ประกันภัยไทยวิวัฒน์ เดินหน้าขับเคลื่อนองค์กรเพื่อความยั่งยืน ชูประเด็นรักษ์โลกผ่านโครงการ “Greenovation” เปลี่ยนโลกด้วยนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนพร้อมส่งเสริมสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาล ล่าสุดจัดแคมเปญนำร่อง"เปลี่ยนเสื้อเก่า เป็นเสื้อใหม่" ผ่านยูนิฟอร์มของพนักงานที่ผลิตจากเสื้อผ้าเหลือใช้ด้วยนวัตกรรม

พร้อมรณรงค์ลดปัญหาขยะจากเสื้อผ้าเก่าด้วยการนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle)ในรูปแบบที่แตกต่างบริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำนวัตกรรม InsurTech ของไทย นำโดย นายจีรพันธ์ อัศวะธนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า บริษัทฯ มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการพัฒนาธุรกิจควบคู่กับความยั่งยืน ทั้งด้านสิ่งแวดล้อมสังคมและธรรมาภิบาล มาโดยตลอดกว่า 72 ปี ภายใต้วิสัยทัศน์ “คิดเผื่อ เพื่อทุกชีวิต”


เพื่อให้คนไทยมีความมั่นคง ทั้งชีวิตและทรัพย์สินตลอดจนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่โดยการนำนวัตกรรมด้านประกันภัยมาปรับใช้จริง จึงเป็นที่มาในการจัดตั้งโครงการ“Greenovation” เปลี่ยนโลกด้วยนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน ทั้งนี้เพื่อเป็นการรณรงค์และส่งเสริมให้คนไทยสามารถเดินหน้าและขับเคลื่อนสังคมได้อย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ยังกล่าวถึงยูนิฟอร์มใหม่ ภายใต้แคมเปญ “เปลี่ยนเสื้อเก่าเป็นเสื้อใหม่” ว่าต้องการให้ยูนิฟอร์มเป็นตัวแทนสะท้อนถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์
ที่ให้ความสำคัญในการนำนวัตกรรมมาปรับใช้และเปลี่ยนโลกซึ่งเป็นที่มาในการคิดค้นพัฒนานวัตกรรมด้านการประกันภัย เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์และตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้บริการ


“เราเชื่อว่าการพัฒนานวัตกรรมสู่ความยั่งยืนเป็นอีกเป้าหมายที่สำคัญเพราะการพัฒนานวัตกรรม คือการเปลี่ยนแปลง ทั้งในด้านผลิตภัณฑ์ บริการรวมถึงกระบวนการดำเนินธุรกิจให้สามารถสร้างผลกระทบที่ดีในระยะยาวต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมได้ไทยวิวัฒน์เราจึงไม่หยุดยั้งในการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมด้านประกันภัยเพื่อเพิ่มความสะดวกและตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนในสังคมอย่างต่อเนื่อง”นายจีรพันธ์ กล่าว


ด้าน นายเทพพันธ์ อัศวะธนกุล รองกรรมการผู้อำนวยการ กล่าวว่า สาเหตุสำคัญที่บริษัทฯ เลือกหยิบเรื่องของการลดขยะจากเสื้อผ้าเหลือใช้มาเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันเรื่องความยั่งยืนเพราะต้องการจุดประกายและส่งเสริมให้คนไทยตระหนักและหันมาให้ความสำคัญจากเรื่องใกล้ตัว โดยเริ่มต้นจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ในทุกๆวันซึ่งได้สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมหาศาล ไล่เลียงตั้งแต่กระบวนการต้นน้ำทั้งการปลูกฝ้าย ไปจนถึงขั้นตอนการผลิต ล้วนส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ ปุ๋ย,ยาฆ่าแมลง และน้ำเสียจากการมัดย้อม ที่ปล่อยสู่ธรรมชาติ

ดังนั้นบริษัทฯจึงเริ่มต้นรณรงค์จากพนักงาน เชิญชวนเปิดกล่องบริจาคเสื้อผ้าเก่านำกลับมารีไซเคิลใหม่ เพื่อกระตุ้นการตระหนักรู้ในวัตถุประสงค์ของโครงการฯสำหรับความพิเศษของยูนิฟอร์มใหม่ครั้งนี้โชว์จุดเด่นด้วยการนำนวัตกรรมมาผลิตเสื้อผ้าจากวัตถุดิบที่มาจากรีไซเคิล 100%โดยเป็นการช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ เช่น น้ำสะอาด,ช่วยลดการปล่อยก๊าซ CO₂ จากการลดขั้นตอนการผลิต เช่น การปลูกฝ้ายใหม่และกระบวนการฟอกย้อม รวมทั้งยังมีการใช้พลังงานหมุนเวียนจาก solar rooftop เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซ CO

นายเทพพันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การรักษาสิ่งแวดล้อมนั้นไม่เพียงแค่ลดการทำลายสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นการกระทำเพียงอย่างเดียวเท่านั้นแต่หัวใจสำคัญคือ ต้องร่วมสร้างและปลูกจิตสํานึกให้ตระหนักรู้ถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ซึ่งแคมเปญ “เปลี่ยนเสื้อเก่า เป็นเสื้อใหม่”เพื่อลดขยะจากผ้าที่ใช้แล้ว

นอกจากจะเป็นการสร้างจิตสำนึกให้กับพนักงานของบริษัทฯกว่า 800 คนได้ตระหนักรู้ถึงเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะช่วยขยายผลไปยังครอบครัว
และคนรอบข้างจำนวนมากยังเป็นการเปิดโอกาสให้พนักงานได้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนองค์กรเพื่อความยั่งยืนในด้านการพัฒนาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย


ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาบริษัทฯได้พยายามขับเคลื่อนด้านความยั่งยืนผ่านนวัตกรรมจนออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่หลากหลาย อาทิเช่น ประกันรถเปิดปิดประกันรถยนต์รูปแบบใหม่ที่คิดค่าเบี้ยตามที่ใช้งานจริงที่ทำงานร่วมกับอุปกรณ์ IoTสามารถเปิดได้อัตโนมัติเพียงแค่สตาร์ทรถหรือดับเครื่องยนต์ช่วยให้ประหยัดค่าเบี้ยได้สูงสุดถึง 80%, ประกันสุขภาพแอ็คทิฟเฮลท์ที่สนับสนุนด้านการออกกำลังกาย โดยนำ Wearable Technology มาใช้เพื่อTracking นาทีการออกกำลังกายของผู้ใช้บริการเพื่อเป็นส่วนลดค่าเบี้ยในแต่ละเดือนสูงสุดถึง 40% รวมถึงประกันภัยการเดินทางต่างประเทศ พลัส เปิด-ปิดที่สามารถจัดการทริปการเดินทางได้ด้วยตัวเอง

รวมถึงเพิ่มลดวันเดินทางได้ด้วยตัวเอง วันเหลือสามารถเก็บไว้ใช้ทริปถัดไปได้ผ่านแอปพลิเคชัน Thaivivat ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถซื้อผ่านออนไลน์ได้โดยตรงที่ www.thaivivat.co.th โดยไม่ต้องออกกรมธรรม์ในรูปแบบกระดาษอีกต่อไป สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นส่วนหนึ่งด้านความยั่งยืนที่บริษัทฯ ผลักดันไม่ใช่แค่เพื่อองค์กรฝ่ายเดียวแต่เพื่อสังคมด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น