อว. ลงMONU เรื่อง การบูรณาการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนิวเคลียร์ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพด้านงานวิจัย พัฒนานวัตกรรมและการใช้ประโยชน์ - MSK News

Breaking

Home Top Ad

วันเสาร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2565

อว. ลงMONU เรื่อง การบูรณาการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนิวเคลียร์ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพด้านงานวิจัย พัฒนานวัตกรรมและการใช้ประโยชน์


ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เรื่อง การบูรณาการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนิวเคลียร์ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพด้านงานวิจัย พัฒนานวัตกรรมและการใช้ประโยชน์ ซึ่งสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (สทน.) จัดขึ้น ภายใต้โครงการ “การสร้างมูลค่าให้กับอาหารพื้นถิ่นด้วยการฉายรังสี” โดยมี รศ.ดร.ธวัชชัย อ่อนจันทร์ ผู้อำนวยการ สทน. ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการ วช. และอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ 3 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต และมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา พร้อมด้วยคณะผู้บริหารสทน. วช. และ มรภ.

ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก กล่าวว่า กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมใน 2 มิติ ได้แก่ 1. มิติวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม และ 2. มิติสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลป์ศาสตร์ เพื่อให้เกิดการบูรณาการองค์ความรู้แบบสหวิทยาการ และร่วมกันขับเคลื่อนให้ประเทศเดินหน้าได้อย่างมั่นคง การลงนามความร่วมมือของทั้ง 5 องค์กร จึงนับเป็นเรื่องที่ดี ที่องค์กรด้านวิทยาศาสตร์และภาคการศึกษาได้มาสนับสนุนซึ่งกันและกัน สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวง ด้านการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เรื่องการพัฒนาผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมยุคใหม่ รวมทั้งตรงกับยุทธศาสตร์ในเรื่องการวิจัยและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ของประเทศ และสร้างระบบนิเวศการวิจัย

ทั้งนี้ “เทคโนโลยีและนวัตกรรม” ถือเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่ช่วยให้เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ให้กับผู้ประกอบการได้ ผมมีความเชื่อมั่นว่า สทน. และ มหาวิทยาลัย ล้วนมีศักยภาพทั้งด้านบุคลากร และองค์ความรู้ อีกทั้งส่วนใหญ่ยังมีงานวิจัยที่ทำงานร่วมกับภาคประชาชนมาโดยตลอด การส่งเสริมให้ผู้ประกอบการนำงานวิจัยและนวัตกรรมด้านต่าง ๆ เช่น เทคโนโลยีด้านการฉายรังสี มาใช้เพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ เป็นการสร้างโอกาสและรายได้ให้แก่ชุมชนในท้องถิ่น จึงถือเป็นอีกหนึ่งพลังสำคัญที่นำพาประเทศไปถึงเป้าหมายสำคัญ ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติได้ นั่นคือ ช่วยกันพัฒนาประเทศไทยทำให้เป็นประเทศที่มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน

“ผมขอแสดงความยินดีกับทั้ง 5 องค์กร ในความร่วมมือที่ได้เริ่มต้นขึ้นจากวันนี้เป็นต้นไป และเชื่อว่าความร่วมมือในครั้งนี้ จะส่งผลให้เกิดการใช้เทคโนโลยีนิวเคลียร์ในการสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รวมถึงช่วยเพิ่มมูลค่าและต่อยอดผลิตภัณฑ์อาหารพื้นถิ่นได้อย่างยั่งยืน” รมว.อว. กล่าวในตอนท้าย






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น