เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยภายหลังเปิดโครงการสัมมนาเพื่อขยายเครือข่ายแรงงานอิสระและส่งเสริมการขึ้นทะเบียนในระบบแรงงานอิสระ INDE-REGIS ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 โดยมี ว่าที่ร้อยตรีสมศักดิ์ พรหมดำ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน นายเกริกไกร นาสมยนต์ ที่ปรึกษากฎหมาย และผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน ร่วมเป็นเกียรติ ณ โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ
โดยนางสาวกรจิรัฏฐ์ พงจันทร์ศธร ผู้ช่วยปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดงาน
ว่า ตามนโยบายหลักของนายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ให้ความสำคัญในการผลักดันการคุ้มครองแรงงานอิสระ เนื่องจากเป็นแรงงานที่ไม่มีนายจ้าง ซึ่งจะมีความแตกต่างจากแรงงานในระบบ หรือแรงงานที่ทำงานในสถานประกอบการ ดังนั้น การกำหนดนโยบายหรือการบริหารจัดการแรงงานอิสระ ซึ่งปัจจุบันมีกว่า 21 ล้านคน หลากหลายกลุ่มอาชีพ จำเป็นต้องมีข้อมูลและตัวตนของแรงงานอิสระ จึงเป็นที่มาของการเตรียมความพร้อมในเรื่องของการจัดทำฐานข้อมูลแรงงานอิสระ ภายใต้ชื่อ ระบบแรงงานอิสระ INDE-REGIS รวมถึง ส่งเสริมให้แรงงานอิสระขึ้นทะเบียนในระบบฯ โดยใช้เครือข่ายแรงงานอิสระได้แก่ อาสาสมัครแรงงาน บัณฑิตแรงงาน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนกว่า 81,143 คน ทำหน้าที่เป็นสื่อกลาง ในการประชาสัมพันธ์ สร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับจากการส่งเสริมและคุ้มครอง
นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อแรงงานอิสระได้ขึ้นทะเบียนในระบบแรงงานอิสระ INDE-REGIS โดยระบุตัวตน ระบุความต้องการเพื่อขอรับความช่วยเหลือด้านแรงงาน ระหว่างที่รอให้ (ร่าง) พระราชบัญญัติส่งเสริมและคุ้มครองแรงงานอิสระ มีผลใช้บังคับ ข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำมาวิเคราะห์ และส่งต่อการให้ความช่วยเหลือตามภารกิจของหน่วยงาน สังกัดกระทรวงแรงงาน อาทิ การส่งเสริมการมีงานทำ การพัฒนาอาชีพ พัฒนาทักษะฝีมือ ความปลอดภัยในการทำงาน และสิทธิประโยชน์ด้านประกันสังคม และหากกฎหมายมีผลใช้บังคับ นอกจากแรงงานอิสระจะได้รับสิทธิ และการส่งเสริมข้างต้นแล้ว ยังจะได้รับสิทธิในการรวมกลุ่มเพื่อสร้างความเข้มแข็ง การเข้าถึงกองทุนส่งเสริมและคุ้มครองแรงงานอิสระ สามารถกู้ยืมเงินเพื่อการประกอบอาชีพและดำรงชีพ
นอกจากนี้ ยังมีการจัดให้มีประกันภัย การคุ้มครองสุขภาพ การประกันอุบัติเหตุ และมีพนักงานตรวจแรงงานอิสระ รับเรื่องร้องทุกร้องเรียนและไกล่เกลี่ยจากการไม่ได้รับความเป็นธรรมในการทำงานได้ วันนี้ เรามีเป้าหมายการขยายเครือข่ายแรงงานอิสระ ไปยังประธาน/กรรมการชุมชน และผู้ประกอบอาชีพกลุ่มต่างๆ ที่มีสมาชิกอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งเป้าหมายทั้ง 2 กลุ่มนี้ กระทรวงแรงงานได้รับความร่วมมือจากกรุงเทพมหานคร สมาคมนักร้องลูกทุ่งแห่งประเทศไทย มูลนิธิเพื่อการพัฒนาแรงงานและอาชีพ (Homenet) และศูนย์ประสานงานแรงงานนอกระบบแห่งชาติ
พร้อมกันนี้กระทรวงแรงงานยังได้มีการเตรียมความพร้อมก่อนที่กฎหมายมีผลใช้บังคับ 3 ประเด็น คือ 1.การจัดทำระบบแพลตฟอร์ม ภายใต้ชื่อ ระบบแรงงานอิสระ INDE-REGIS 2.การประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้เกี่ยวกับประโยชน์จากการส่งเสริมและคุ้มครองแรงงานอิสระ และเชิญชวนขึ้นทะเบียนในระบบ และ 3.จัดทำกฎหมายลำดับรอง 31 ฉบับ









%20(%E0%B8%9E%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%B8%E0%B9%8B%E0%B8%A2)%20%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%93%E0%B8%B7%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C.jpeg)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น