โฆษกรัฐบาลแจง รัฐบาลจริงจังแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน ชี้คะแนนความหลากหลายของประชาธิปไตยและการถ่วงดุล 3 ฝ่ายเพิ่มขึ้น ลั่นวางระบบธรรมาธิปไตยเพื่อเป็นรากฐานสำคัญให้สังคมไทยในอนาคต - MSK News

Breaking

Home Top Ad

วันพฤหัสบดีที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2565

โฆษกรัฐบาลแจง รัฐบาลจริงจังแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน ชี้คะแนนความหลากหลายของประชาธิปไตยและการถ่วงดุล 3 ฝ่ายเพิ่มขึ้น ลั่นวางระบบธรรมาธิปไตยเพื่อเป็นรากฐานสำคัญให้สังคมไทยในอนาคต


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 65 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พรรคร่วมฝ่ายค้านยังคงหยิบกรณีคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perceptions Index: CPI) ประจำปี 2564 มาโจมตีรัฐบาลรายวันว่า ยืนยันว่ารัฐบาลมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาการทุจริตและบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังมาโดยตลอด โดยแม้ว่าคะแนนดัชนี CPI ของไทยจะลดลง แต่ภาพรวมการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้นมีความก้าวหน้าและเป็นรูปธรรมมากขึ้น ขอให้มองภาพกว้างในการทำงานของรัฐบาล ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างสังคมไทยที่ปลอดการทุจริตคอร์รัปชัน เพราะที่ผ่านมามีรัฐบาลบางชุดที่มีปัญหาทุจริตมากที่สุดจนมีอดีตรัฐมนตรีถูกจำคุกมาแล้ว ทั้งนี้ คะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perceptions Index: CPI) ประจำปี 2564 ซึ่งจัดทำโดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International: TI) และมีการประกาศเมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2565 ที่ผ่านมา เป็นการจัดอันดับจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก โดยประเทศไทยได้คะแนน 35 คะแนน จากการใช้แหล่งการประเมินจำนวน 9 แหล่งนั้น แต่หากพิจารณาแหล่งการประเมินทั้ง 9 แหล่งจะพบว่า ประเทศไทยได้คะแนนเพิ่มขึ้น 1 แหล่ง ได้แก่ แหล่งข้อมูล Varieties of Democracy Institute (V-DEM) ซึ่งวัดเกี่ยวกับความหลากหลายของประชาธิปไตย การถ่วงดุลของฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ ตลอดจนการทุจริตของเจ้าหน้าที่ในฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ โดยประเทศไทย ได้คะแนน 26 คะแนน เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ที่ได้ 20 คะแนน

 นายธนกร กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมารัฐบาลดำเนินการแก้ไขปัญหาและป้องกันการทุจริตอย่างจริงจัง โดยประกาศให้การแก้ไขปัญหาการทุจริตเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งจากรายงานผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment: ITA) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 จัดทำโดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พบว่า คะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 81.25 คะแนน สูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ป.ป.ช. ได้ดำเนินการเกี่ยวกับคดีทุจริตเสร็จแล้วกว่า 4,552 คดี สะท้อนความจริงจังของรัฐบาลในการบังคับใช้กฎหมาย และมุ่งมั่นให้สังคมไทยเป็นสังคมที่โปร่งใส และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล นอกจากนี้ รัฐบาลได้ปรับปรุงข้อกฎหมายต่าง ๆ เพื่อให้มีความทันสมัย เป็นสากล ครอบคลุมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบอย่างเป็นระบบ โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 24 ม.ค. 2565 คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการฟ้องคดีปิดปากในความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่และประพฤติมิชอบ พ.ศ. .... เพื่อป้องกันไม่ให้มีการดำเนินคดีหรือฟ้องคดีปิดปาก และมีกฎหมายคุ้มครองบุคคลที่แสดงความเห็นหรือเปิดโปงเบาะแสเกี่ยวกับการทุจริตประพฤติมิชอบ เพื่อความโปร่งใส ขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบในสังคมไทย

 “นายกฯ เป็นผู้มีคุณธรรม ซื่อสัตย์สุจริต ท่านกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันในสังคมไทยอย่างจริงจัง เท่าเทียม ต่อเนื่อง และเห็นผลการดำเนินการเป็นรูปธรรม ยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้เอาจริงเอาจังในการแก้ปัญหา พร้อมทั้งวางระบบธรรมาธิปไตยเพื่อเป็นรากฐานสำคัญให้กับสังคมไทยในอนาคต ไม่ให้การบริหารราชการของรัฐบาลล้มเหลวเพราะการทุจริตคอร์รัปชัน หรือผลประโยชน์ให้กับพวกพ้องอย่างที่เคยมีมาในอดีต” นายธนกร กล่าว 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น